“คมนาคม” วางแผนจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระดมเงินซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าจากภาคเอกชนคืนกลับมาเป็นของรัฐบาล คาดใช้เงินมากกว่า 5 แสนล้านบาท หวังทำนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า กระทรวงคมนาคมมีแนวคิดจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อซื้อสัมปทานการบริหารโครงการรถไฟฟ้าจากภาคเอกชนคืนกลับมาเป็นของรัฐบาล และกำหนดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย โดยกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเป็นกองทุนรวมระยะยาว และมีการเปิดขายหน่วยลงทุน ให้แก่ประชาชน หรือนักลงทุนสถาบัน เพื่อนำเงินจากหน่วยลงทุน ไปซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าทุกสายที่เป็นของเอกชนมาเป็นของรัฐ หลังจากนั้นให้นำรายได้และกำไรจากค่าโดยสาร มาจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับนักลงทุน
ทั้งนี้ประเมิน หากรัฐบาลจะใช้เงินซื้อสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าจากเอกชนกลับมาทั้งหมด อาจต้องใช้เงินมากกว่า 5 แสนล้านบาท จำนวน 7 โครงการ ประกอบด้วย
- สายสีส้ม บางขุนนนท์-มีนบุรี 140,000 ล้านบาท
- สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื้อ 1.15 แสนล้านบาท สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ, หัวลำโพง-บางแค 81,000 ล้านบาท
- สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง 48,000 ล้านบาท สายสีชมพู 51,000 ล้านบาท
- โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลัก หรือบีทีเอส ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน มูลค่า 50,000 ล้านบาท
- สายสีเขียวส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 27,000 ล้านบาท
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคม ยังมีแนวคิดจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาความเป็นไปได้ และนำรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ส่งเข้ากองทุนรวมดังกล่าวด้วย เพื่อสนับสนุนในการรณรงค์ให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รถไฟฟ้า 20 บาท คงต้องทําพูดไปแล้วต้องทําให้ได้ เพราะฉะนั้น อาจจะต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหาร กลับมาเป็นของรัฐแล้วจ้างเอกชนเป็นคนบริหารแล้วกําหนด ค่าตั๋วเอง เพราะไม่เช่นนั้นเอกชนจะมุ่งเรื่องของกําไร เป็นสิ่งที่เราจะต้องทํา เพราะการเดินทางโดยรถไฟฟ้านอกจากสะดวกรวดเร็วแล้ว คุณภาพชีวิตดีขึ้น
