วันอังคาร, ตุลาคม 8, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“ททท.”โหมโรง-เร่งดึง“ต่างชาติ”เที่ยวไทย หวังดันยอดเข้าเป้า 36.7ล้านคน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ททท.”โหมโรง-เร่งดึง“ต่างชาติ”เที่ยวไทย หวังดันยอดเข้าเป้า 36.7ล้านคน

“ผู้ว่าฯททท.” มั่นใจโค้งสุดท้ายดึงต่างชาติเที่ยวไทยเพิ่มอีก 7.9 ล้านคน ดันยอดเข้าเป้า 36.7 ล้านคน เตรียมจัดงานอะเมซิ่งไทยแลนด์ มาราธอน แบงค๊อก 2024 ธ.ค.นี้

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวในไตรมาส 4/67 ว่า ยังเติบโต แม้ว่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วมแต่ไม่ได้ชะลอตัวลง เห็นได้จากนักท่องเที่ยวจีน เข้ามาเที่ยวไทยในช่วงหยุดยาววันชาติจีน 1-7 ต.ค.ที่ผ่านมา สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อยู่ที่ 2 แสนกว่าคน จากเดิม 1.3 แสนคนโดยในช่วงที่เหลือของปีนี้หากจะทำให้เข้าเป้า โดยมีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36.7 ล้านคน จะต้องดึงต่างชาติเที่ยวไทยให้ได้ 7.9 ล้านคน แบ่งเป็นเดือนต.ค. 2.1 ล้านคน พ.ย. 2.6 ล้านคน และธ.ค. 3.2 ล้านคน

สำหรับปีหน้าคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย จำนวน 38.29 ล้านคน สร้างรายได้ 2.106 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% และนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย จำนวน 203.80 ล้านคนครั้ง เพิ่มขึ้น 11% สร้างรายได้ 1.134 ล้านล้านบาท หรือมีรายได้รวม 3.240 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ประเมินจากภาพรวมการท่องเที่ยวปีนี้ ส่วนเป้าหมายการทำงานนั้น ททท. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย จำนวน 39 ล้านคน สร้างรายได้ 2.232 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย จำนวน 205 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 1.170 ล้านล้านบาท รวมสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.402 ล้านล้านบาท

“ปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนเที่ยวบินที่ฟื้นตัวกลับคืนมามากขึ้น ทั้งการเปิดเส้นทางใหม่ และการกลับมาบินอีกครั้ง รวมถึงแคมเปญกระตุ้นตลาดต่างๆ อาทิ หนีห่าว มันธ์ มาตรการวีซ่าฟรี รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยลบต่างๆ ที่เข้ามาส่งผลกระทบ ทั้งวิกฤตธรรมชาติ ค่าเงินบาทแข็ง หรือค่าเงินเยนอ่อน หนุนให้การท่องเที่ยวญี่ปุ่นเติบโตมากขึ้น ซึ่ง ททท.เตรียมแผนรับมือไว้แล้วคือ การเจาะตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลุ่มใหม่ กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มครอบครัว และกลุ่มผู้ที่เพิ่งมีหนังสือเดินทางเป็นครั้งแรก เพื่อดึงเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น”

นอกจากนี้พบว่า สายการบินฟื้นตัวมากกว่าเดิม เช่น เยอรมัน จากเดิมบินเข้ามาแบบเช่าเหมาลำ ก่อนจะเริ่มบินแบบพาณิชย์มากขึ้น หรือ ออสเตรเลีย บินไปยังภูเก็ต-กระบี่-พังงามากขึ้น ถือว่าการท่องเที่ยวภาคใต้เติบโตได้ดี โดยเฉพาะภูเก็ต ท่องเที่ยวฟื้นตัวดีมาก จนไม่มีช่วงตกท้องช้าง ส่วนราคาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นสูงเกินไป ด้านตลาดระยะใกล้ ถือว่าปรับเพิ่มขึ้นได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะอินเดีย ที่มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นจากหลายเมือง อาทิ โกลกาตา อาห์มาดาบัด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ จะมีงานอะเมซิ่งไทยแลนด์ มาราธอน แบงค๊อก 2024 คาดว่าจะมีผู้ร่วมงาน 30,712 คน แยกเป็นนักวิ่งต่างชาติ 6,000 คน คิดเป็น 20% ทำรายได้ทางตรงไม่น้อยกว่า 485 ล้านบาท เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาร่วมงานวิ่ง บางคนเลือกเดินทางมาพักไทยเป็นสัปดาห์ เพื่อทำการซ้อมก่อน จากนั้นจะพักหลังใกล้วันวิ่งจริง ส่วนใหญ่นิยมมาเป็นครอบครัว ช่วยให้เกิดการใช้จ่ายและเดินทางท่องเที่ยวในพื้นใกล้ที่พัก รวมถึงยังเตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยว 5 ภาค เพื่อตามรอยหมูเด้ง ที่กำลังได้รับความนิยมสูง

ส่วนแผนการท่องเที่ยวปีหน้า มีการบริหารความเสี่ยงไว้รองรับปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น พิบัติภัย สงครามทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าสงครามการสู้รบทางภูมิรัฐศาสตร์จะจบลงเมื่อใด และเกินรับไหวหรือไม่ ทั้งสงครามอิสราเอล-รัสเซีย ซึ่งการที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศมองว่า ประเทศไทยเป็นกลาง ไม่ได้ขัดแย้งกับใคร มีความปลอดภัย ทำให้สงครามไม่ได้กระทบกับการเข้ามาเที่ยวไทย กลับกันมีนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีสงครามเลือกเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นด้วย แต่ต้องยอมรับว่า แผนที่รวมภัยพิบัติเข้าไปแล้ว แต่เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทั่วโลกรวมถึงไทยด้วย อยู่เหนือความคาดหมายจริงๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางลง

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img