“พิชัย” นำทัพ “พาณิชย์” ถกภาคธุรกิจไทยรายใหญ่ในลาวถึงสถานการณ์ของธุรกิจ หวังสร้างโอกาสผู้ประกอบการไทย ชูใช้ประโยชน์เส้นทางรถไฟ ไทย-ลาว-จีน ทำเงินเข้าประเทศ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และนายกวิน วิริยพานิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เวียงจันทน์ ได้นัดหารือภาคธุรกิจไทยรายใหญ่ในลาวรวม 9 ธุรกิจ ได้แก่ ซีพี ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย PTT UMG Trimax SCG บิ๊กซี และ TOA เพื่อรับฟังถึงสถานการณ์ของธุรกิจไทย รวมถึงโอกาสและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจในสปป.ลาว
นายพิชัย เปิดเผยว่า การประกอบธุรกิจในลาว ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายตลาด เนื่องจากรัฐบาลลาวมีนโยบายในการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะ MSMEs ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย โดยประโยชน์จากการเปิดใช้เส้นทางรถไฟขนส่งสินค้า ลาว-จีน และลาว-ไทย ที่มาบรรจบกับทางรถไฟลาว-ไทยที่ท่าบกท่านาแล้ง ทำให้ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกก็ได้รับประโยชน์ จากต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสทองในการลงทุนของนักธุรกิจไทย
ในส่วนของชายแดน ไทย-ลาวนั้น ได้ย้ำกับเอกชนไทยว่า จากการมาเยือน สปป. ลาวในครั้งนี้ ผมได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ได้มีการพูดคุยถึงการส่งเสริมการค้าชายแดน การส่งออกสินค้าของไทยผ่านแดนไปจีนและเวียดนามผ่านเส้นทาง R3A R9 R12 และรถไฟลาว-จีน รวมถึงด่านทางบกที่เป็น land link เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งทางบกไทย-จีน ไทย-เวียดนาม ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโขงถึง 4 แห่ง โดยภาคเอกชนไทยขอให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดน สำหรับนักท่องเที่ยวชาวลาวและต่างชาติที่เดินทางข้ามมายังจังหวัดชายแดน โดยจะเกิดประโยชน์กับพ่อค้าชายแดนกับธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจเกี่ยวเนื่องในจังหวัดชายแดนเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจใน สปป.ลาว โดย สคต.เวียงจันทน์ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรม In-Store Promotion ร่วมกับซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำได้แก่ ก๊อก ก๊อก เอ็ม มาร์ท ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาโพนสีนวน สปป. ลาว และยังมีการจัดงานแสดงสินค้า Mini Thailand Week เพื่อส่งเสริมสินค้าไทยในตลาดเมืองรองของ สปป. ลาว อีกด้วย โดยของทางการลาวได้พยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวตั้งแต่เปิดตัวโครงการ “Visit Laos Year 2024” ซึ่งโครงการนี้เป็นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การยกระดับบริการนักท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยว และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคส่วนต่างๆ รวมถึงภาครัฐและภาคธุรกิจ ทำให้สปป.ลาว มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกแขวง
“ผมขอขอบคุณภาคธุรกิจไทยที่ได้มาร่วมหารือแลกเปลี่ยนกันในวันนี้ โดยหากมีปัญหาหรือข้อปรึกษาเพิ่มเติมขอให้ประสานไปยังสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เวียงจันทร์ต่อไป“
สำหรับมูลค่าการค้า ไทย-ลาว ปี 2567 (ม.ค.-ก.ค.) 176,519.05 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16.55% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 0.55% สินค้าส่งออกหลักของไทย – ลาว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าแร่และเชื้อเพลิงอื่นๆ น้ำตาลทราย เคมีภัณฑ์ สบู่ เครื่องสำอาง อัญมณีและเครื่องประดับ