ราคาทองคำตั้งแต่ 1 ต.ค.-10 ต.ค.ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นประมาณ 1,250 บาท หลังเงินบาทอ่อนค่า แต่แนวโน้มปรับตัวลดลงคาดว่าเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ช่วงก่อนหน้า-เกาะติดสถานการณ์ตะวันออกกลาง
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำตั้งแต่ 1 ต.ค.-10 ต.ค. ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นประมาณ 9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่ง 96.5% ปรับตัวขึ้นประมาณ 1,250 บาท เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า โดยราคาทองคำสัปดาห์หน้าแนวโน้มทองคำแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ แม้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แต่ ราคาทองคำได้รับแรงกดดัน จากคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระดับที่น้อยกว่า ช่วงก่อนหน้า
ทั้งนี้ FedWatch ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. และให้น้ำหนัก 15.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
ปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตาม
-แรงซื้อแรงขายทองคำในฝั่งสหรัฐอาจจะเบาบางกว่าปกติ วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2024 แม้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดทองคำจะยังคงเปิดการซื้อขาย แต่ภาคธนาคารของสหรัฐจะปิดทำการ เนื่องในวัน Columbus Day ขณะที่ตลาดหุ้นไทย และตลาด TFEX จะปิดทำการชดเชยวันนวมินทรมหาราช (วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2024) เช่นกัน
-การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 16 ตุลาคม 2024 ทั้งนี้ การปรับตัวของราคาสินค้าเทียบรายเดือนแล้วยังแผ่วลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปหดตัวลง 0.10%MoM จากเดือนก่อนหน้า ประกอบกับ การหารือกันระหว่างคลังกับ ธปท. นั้นเป็นไปในทิศทางบวก โดย กนง.อาจมีท่าทีผ่อนคลายต่อการดำเนินนโยบายการเงินมากขึ้น
-แนวโน้มเศรษฐกิจจีน จะเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 3, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก, การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และ อัตราว่างงาน และจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านในวันที่ 18 ตุลาคม
-การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ซึ่งคาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และจะปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค.