“สุรพงษ์” เผยยอดผลิตรถยนต์ 9 เดือนแตะ 1.1 ล้านคัน ลดลง 18.62% หลังยอดขาย ก.ย.ต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี จากเป้าที่วางไว้ 1.7 ล้านคัน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สถิติการผลิตรถยนต์ 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย.) ที่ผ่านมา มีจำนวนรวมรถยนต์ทุกประเภทอยู่ที่ 1.1 ล้านคัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีจำนวน 1.3 ล้านคัน ลดลง 18.62%
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าจากสถิติสะสมการผลิตรถยนต์ดังกล่าว ยังห่างจากเป้าหมายที่ ส.อ.ท.กำหนดไว้ในปีนี้จะผลิตรถยนต์จำนวน 1.7 ล้านคัน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหารือเพื่อปรับเป้าหมายดังกล่าวลง โดยคาดว่าจะมีการประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในช่วงปลายเดือนนี้ และในเดือน ต.ค.2567 จะมีตัวเลขเป้าหมายใหม่ออกมา โดยเบื้องต้นอาจจะปรับลดลงหลายหมื่นคัน หรือเฉียดแสนคัน
ซึ่งเป็นการปรับยอดการผลิตทั้งในประเทศและส่งออก เนื่องจากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกรถยนต์ได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามตะวันออกกลางที่ขยายวงกว้าง ทำให้หลายประเทศคู่ค้ามียอดการขายภายในประเทศลดลง และระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ส่วนยอดขายภายในประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% สถาบันทางการเงินปฏิเสธการให้สินเชื่อรถยนต์ 50 – 60% และยังไม่มีสัญญาณบวกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ถ้าเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น
“สถานการณ์ผลิตรถยนต์ปีนี้ยังน่าเป็นห่วง เดิมเราตั้งเป้าผลิตเพื่อขายในประเทศ 5.5 แสนคัน อาจจะเป็นไปไม่ได้ อาจต้องปรับเป้าผลิตขายในประเทศ ด้านส่งออกหลายประเทศมียอดขายในประเทศลดลง ระมัดระวังการใช้จ่ายจากสงครามตะวันออกกลาง คงต้องปรับเป้าส่งออกด้วย ซึ่งภาพรวมก็น่าจะปรับลดลงหลายหมื่นคัน ถึงเฉียดแสนคัน”
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า จำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือน ก.ย. 2567 มีทั้งสิ้น 122,277 คัน ลดลงจากเดือน ก.ย. 2566 ปะมาณ 25.48% ลดลงจากการผลิตเพื่อส่งออกลดลง 15.78% และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 42.31% ตามจำนวนส่งออกและขายในประเทศที่ลดลง แต่เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. 2567 ประมาณ 2.17%
ในส่วนของการผลิตเพื่อส่งออก เดือน ก.ย.2567 ผลิตได้ 87,666 คัน เท่ากับ 71.69% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือน ก.ย. 2566 ประมาณ 15.78% ส่วนเดือน ม.ค. – ก.ย. 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 774,175 คัน เท่ากับ 68.63% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกัน 4.42%
ด้านการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ในเดือน ก.ย. 2567 ผลิตได้ 34,611 คัน เท่ากับ 28.31% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือน ก.ย. 2566 ประมาณ 42.31% และเดือน ม.ค. – ก.ย. 2567 ผลิตได้ 353,851 คัน เท่ากับ 31.37% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือน ม.ค. – ก.ย. 2566 ประมาณ 38.57%
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน ก.ย. 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบ 53 เดือน หรือกว่า 4 ปี โดยลดลงจากเดือน ส.ค.2567 ประมาณ 13.59% ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์เพราะหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ยังอยู่ในระดับที่สูงที่ 208,575 ล้านบาท หนี้เสียรถยนต์อยู่ที่ 259.330 ล้านบาท ในเดือน ก.ค. 2567
ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไตรมาสสองปี 2567 ที่โตต่ำแค่ 2.3% และคาดว่า 2567 จะเติบโตแค่ 2.7 – 2.8% เท่านั้น และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. 2567 หดตัว 1.91% แสดงถึงรายได้คนทำงานยังคงอ่อนแอ และส่งผลให้ยอดขายในเดือน ก.ย. 2567 ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 37.11%
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ในรอบเดือน ก.ย. 2567 ส่งออกได้ 80,254 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว 6.75% และลดลงจากเดือน ก.ย. 2566 ประมาณ 17.67% ลดลงจากการขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ จำนวนเที่ยวเรือลดลงและมีการใช้จ่ายลดลงในตลาดประเทศคู่ค้าหลายประเทศมียอดขายรถยนต์ลดลง จึงส่งออกลดลงทุกตลาดยกเว้นตลาดออสเตรเลียที่ยังเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ในเดือน ก.ย.2567 ยังมียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,606 คัน ลดลงจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว 25.81% ขณะที่ช่วง 9 เดือน มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 75,653 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 11.67% ส่วนยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 9,403 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว 51% และในรอบ 9 เดือน มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 104,197 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 59.27%