“มนพร” ดันสร้าง 6 สนามบินใหม่รองรับการเติบโตของผู้โดยสารในอนาคต พร้อมมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนภายในท่าอากาศยานเป็นศูนย์ หนุนไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมในภูมิภาค
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ได้รายงานการเข้าร่วมประชุมระดับผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 59 (59th DGCA Conference) ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานด้านการบินพลเรือนได้มีโอกาสพบปะ หารือ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสาขาต่าง ๆ ของการบินพลเรือนที่สำคัญและอยู่ในความสนใจ ภายใต้แนวคิด “Shaping the Future of Air Transport: Sustainable, Resilient, and Inclusive” (การสร้างอนาคตการขนส่งทางอากาศ : ยั่งยืน ยืดหยุ่น และครอบคลุม)
โดยที่ประชุมฯ ได้กล่าวถึงการพัฒนาเศรษฐกิจการขนส่งทางอากาศ ที่คาดการณ์ว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ปริมาณผู้โดยสารจากทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งต้องมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ ยังได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติงานในท่าอากาศยาน รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการขนส่งทางอากาศสำหรับผู้พิการและส่งเสริมการเท่าเทียมในการเดินทาง และให้ความสำคัญกับโครงการ “Net Zero Roadmap Decarbonise Your Airport” หรือแผนงานเพื่อมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนภายในท่าอากาศยานเป็นศูนย์
นางมนพร กล่าวต่อว่า จากการประชุมดังกล่าวได้มีแนวคิดเกี่ยวกับอนาคตของการขนส่งทางอากาศ การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางอากาศ และการอำนวยความสะดวกของผู้เดินทาง จึงสนับสนุนให้ ทย. พิจารณาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานท่าอากาศยานครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค เพื่อเตรียมการรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ทั้งโครงการเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยาน และโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานใหม่ ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานมุกดาหาร บึงกาฬ สตูล พะเยา กาฬสินธุ์ และพัทลุง
โดยเน้นย้ำแนวคิดเรื่องความปลอดภัย ด้วยการออกแบบท่าอากาศยานให้มีความปลอดภัยอย่างเหมาะสม และการนำอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยมาใช้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองด้านความปลอดภัย รวมถึงการออกแบบท่าอากาศยานตามหลักอารยสถาปัตย์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก
ในการเข้าถึงบริการสำหรับผู้พิการและส่งเสริมความเท่าเทียมในการเดินทาง และในส่วนของเป้าหมายด้านการบินและสิ่งแวดล้อม ได้สนับสนุนให้ ทย. พัฒนาแผนงานต่อยอดหลังจากที่ได้รับรางวัล EIA Monitoring Awards 2024 เพื่อมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ และการรับรองคาร์บอนของสนามบินระดับ 5 (ACA)
ด้านนายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า ทย. จะเร่งดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมีท่าอากาศยานที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะก่อสร้างในอนาคต ได้แก่ ท่าอากาศยานมุกดาหารและท่าอากาศยานบึงกาฬ อยู่ในขั้นตอนออกแบบและจัดทำ EIA ท่าอากาศยานสตูล อยู่ในขั้นตอนหาผู้รับจ้าง (ที่ปรึกษา) ในการออกแบบและจัดทำ EIA ท่าอากาศยานพะเยา อยู่ในขั้นตอนได้รับงบประมาณเพื่อออกแบบและจัดทำ EIA ในปี 2568 ส่วนท่าอากาศยานกาฬสินธุ์และท่าอากาศยานพัทลุง ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าอากาศยานแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับประเด็นความหลากหลาย ทย. ได้สนับสนุนสิทธิและโอกาสเท่าเทียมทุกกลุ่ม การใช้ความหลากหลายของช่วงอายุมาเป็นประสบการณ์ในการทำงาน รวมถึงการที่ ทย. มีบุคลากรที่ปฏิบัติงานตามพื้นที่ต่าง ๆ ครอบคลุมทุกภูมิภาคในประเทศไทย ทำให้มีการเปิดรับมุมมอง ความเชื่อทางศาสนา และค่านิยมที่แตกต่าง เพื่อบูรณาการให้องค์กรมีความเข้มแข็ง ควบคู่ไปกับการนำผลการประชุมมาวางแผนพัฒนาท่าอากาศยาน และแนวทางการปฏิบัติต่าง ๆ พร้อมสำหรับการยกระดับท่าอากาศยานในสังกัดสู่การเป็นหน่วยงานที่ได้มาตรฐานสากล