สนข.เร่งศึกษาปัญหาจราจรติดขัดในพื้นที่กรุงเทพชั้นใน โดยยึดรูปแบบ 5 ประเทศหลัก ด้าน “สุริยะ” เล็งเก็บค่าธรรมเนียมรถยนต์ที่วิ่งเข้าพื้นที่สุขุมวิท สีลม รัชดานำร่อง 40-50 บาท หวังซื้อคืนรถไฟฟ้าจากเอกชน
รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ชั้นใน รวมไปถึงหาแนวทางกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งเริ่มศึกษารูปแบบของการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด จากการนำความสำเร็จของหลายประเทศที่ใช้โมเดลแก้รถติดจากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมมาศึกษาเปรียบเทียบ และต่อยอดสู่โมเดลที่เตรียมใช้ในประเทศไทยโดยพบว่าโมเดลต่างประเทศที่ สนข.กำลังศึกษามีจำนวน 5 เมืองใหญ่ ประกอบด้วย
1.ประเทศสิงคโปร์
- กำหนดเขตพื้นที่การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเป็นพื้นที่เขตศูนย์กลางของเมือง และพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น
- ราคา 1 – 6 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อวัน
- กำหนดช่วงเวลาการจัดเก็บเป็น จันทร์ -เสาร์ 06.00 – 22.00 น. ยกเว้นวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
- ระบบการทำงานด้วยเทคโนโลยีวิทยุระบุความถี่ (RFID) เพื่อทำการเก็บค่าธรรมเนียมความแออัดโดยอัตโนมัติจากยานพาหนะที่ติดตั้ง IU ที่ผ่านไปใต้ประตู ERP
- วิธีการชำระเงินด้วยชุดควบคุมภายในรถ (The In-vehicle Unit (IU)) โดยเชื่อมต่อกับเครื่องชำระเงินผ่านบัตรแทนเงินสด หรือบัตรเดบิต/เครดิต (ชำระ ณ ที่จ่าย)
2.กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
- กำหนดเขตพื้นที่การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเป็นพื้นที่เขตศูนย์กลางของเมือง
- ราคา 15 ปอนด์ต่อวัน
- กำหนดช่วงเวลาการจัดเก็บเป็น จันทร์-ศุกร์ 07.00-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 12.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันหยุดธนาคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์
- ระบบการทำงานด้วยการกล้องตรวจจับการรับรู้ป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ
- วิธีการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน/ออนไลน์ Internet Banking
3.เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
- กำหนดเขตพื้นที่การจัดเก็บค่าธรรมเนียม ใจกลางเมืองมิลาน บริเวณเซอร์เคีย เดย บาสติโอนี่
- ราคา 2-5 ยูโรต่อวัน
- กำหนดช่วงเวลาการจัดเก็บเป็น จันทร์ อังคาร พุธ ศุกร์ 7.30 – 19.30 น. วันพฤหัสบดี 07.30 – 18.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
- ระบบการทำงานด้วยการกล้องตรวจจับการรับรู้ป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ
- วิธีการชำระเงินผ่านตู้ชำระเงินบริเวณที่จอดรถ เครื่องเอทีเอ็ม แอปพลิเคชัน และช่องทางออนไลน์
4.เมืองสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
- กำหนดเขตพื้นที่การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเป็นพื้นที่เขตศูนย์กลางของเมือง ทางหลวงพิเศษเอสซิงเกเลเดน
- ราคา 11 – 45 โครนาสวีเดนต่อวัน
- กำหนดช่วงเวลาการจัดเก็บเป็น จันทร์ – ศุกร์ 06.30 – 18.29 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
- ระบบการทำงานด้วยการกล้องตรวจจับการรับรู้ป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ
- วิธีการชำระเงินโดยกล้องตรวจจับค่าผ่านทางบนถนน จะบันทึกยานพาหนะทั้งหมด และมีการส่งใบแจ้งหนี้ไปยังเจ้าของยานพาหนะในตอนท้ายของเดือน
5.เมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน
- กำหนดเขตพื้นที่การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเป็นพื้นที่เขตศูนย์กลางของเมือง ถนนสายหลัก E6
- ราคา 9 – 22 โครนาสวีเดนต่อวัน
- กำหนดช่วงเวลาการจัดเก็บเป็น จันทร์ – ศุกร์ 06.30 – 18.29 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
- ระบบการทำงานด้วยการกล้องตรวจจับการรับรู้ป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ
- วิธีการชำระเงินโดยกล้องตรวจจับค่าผ่านทางบนถนน จะบันทึกยานพาหนะทั้งหมด และมีการส่งใบแจ้งหนี้ไปยังเจ้าของยานพาหนะในตอนท้ายของเดือน
สำหรับ ผลลัพธ์จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ถนนในพื้นที่รถติดของทั้ง 5 เมืองดังกล่าว พบว่าส่งผลบวกในการแก้ไขปัญหาปริมาณการจราจรที่แออัด โดยในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี สามารถลดปริมาณการจราจรได้มากถึง 34% ขณะที่ในกรุงลอนดอน ก็สามารถเพิ่มปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะในพื้นที่ดังกล่าวมากถึง 18% รวมทั้งกรุงลอนดอนยังมีรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมประมาณ 352 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งสามารถนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติดในไทยว่า พื้นที่เป้าหมายในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด อาทิ สุขุมวิท สีลม และรัชดา ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ปัจจุบันมีทางเลือกในการเดินทางหลากหลาย มีแนวรถไฟฟ้าตัดผ่าน โดยพื้นที่เหล่านี้มีปริมาณจราจรเฉลี่ย 7 แสนคันต่อวัน
โดยเบื้องต้นจัดเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราเพิ่มขึ้นทุก 5 ปี อาทิ ใน 5 ปีแรกจัดเก็บคันละ 40 – 50 บาท หลังจากนั้นจะจัดเก็บคันละ 80 บาท เป็นต้น คาดว่าจะได้รายได้ส่วนนี้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี หลังจากนั้นกระทรวงฯ จะนำรายได้เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure fund เพื่อซื้อคืนรถไฟฟ้าจากเอกชน และปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้เหลือ 20 บาทตลอดสาย ลดค่าครองชีพในการเดินทางให้ประชาชน
รายงานข่าวแจ้งว่า สนข. ร่วมมือกับสำนักงานองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ศึกษาสำรวจปริมาณจราจรของโครงข่ายถนนที่คาดว่าจะมีการดำเนินการมาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) จำนวน 6 เส้นทาง เก็บสถิติการจราจร ในปี 2566 ช่วงเวลา 07.00-19.00 น. มีเส้นทางดังต่อไปนี้
1.ทางแยก เพชรบุรี-ทองหล่อ (ช่วงถนนเพชรบุรี และ ทองหล่อ) มีปริมาณจราจร 60,112 คัน/วัน
2.2.ทางแยก สีลม-นราธิวาส (ช่วงถนน นราธิวาสราชนครินทร์ และ ถนนสีสม) มีปริมาณจราจร 62,453 คัน/วัน
3.ทางแยก สาทร-นราธิวาส (ช่วงถนน นราธิวาสราชนครินทร์ และ ถนนสาทร) มีปริมาณจราจร 83,368 คัน/วัน
4.ทางแยก ปทุมวัน (ช่วงถนนพญาไท และถนนพระรามที่ 1) มีปริมาณจราจร 62,453 คัน/วัน
5.ทางแยก ราชประสงค์ (ช่วงถนนราชดำริ ถนนพระราม 1 และถนนเพลินจิต) มีปริมาณจราจร 56,235 คัน/วัน
6.ทางแยกประตูน้ำ (ช่วงถนนราชดำริ ถนนราชปรารถ และถนนเพชรบุรี) มีปริมาณจราจร 68,473 คัน/วัน)