“เผ่าภูมิ” สั่งกรมสรรพสามิตปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ จ่อเก็บภาษีอัตราเดียว แก้ปัญหาบิดเบือนกลไกราคา ย้ำต้องไม่กระทบชางไร่ผู้ปลูกใบยา
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพสามิต พิจารณาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ด้วยการจัดเก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว (Singler Rate) เพื่อลดการบิดเบือนลไกราคา จากปัจจุบันที่จัดเก็บภาษีบุหรี่สองอัตรา เพื่อให้เป็นไปตามาตรฐานสากลนอกจากนี้ เตรียมนำระบบตรวจ ติด ตาม บุหรี่ โดยใช้ระบบ QR Code เพื่อป้องกันบุหรี่เถื่อนทั้งระบบ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อมูลการเสียภาษีและแหล่งที่มาของบุหรี่
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการจัดเก็บรายได้ภาษีบุหรี่ลดลง ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากบุหรี่เถื่อน ซึ่งในการสั่งการให้สรรพสามิตไปพิจารณาแนวทางเก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ โดยจะพิจารณาให้อุตสาหกรรมได้มีเวลาปรับตัว ที่สำคัญต้องไม่กระทบชางไร่ผู้ปลูกใบยา
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตเข้มงวดในการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย โดยในปีงบประมาณ 67 ปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายทั่วประเทศทุกช่องทางได้ 33,359 คดี สูงขึ้นกว่าปีก่อน 28.03% คิดเป็นเงินค่าปรับ 690.75 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 2,465.86 ล้านบาท
สำหรับการปราบปรามยาสูบนั้น มีกว่า 13,170 คดี ประมาณการค่าปรับ 2,334 ล้านบาท แบ่งเป็น ยาสูบในประเทศ 301,961 ซอง และยาสูบต่างประเทศ 2,579,434 ซอง
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันการเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ของไทย มีการเก็บตามปริมาณ 1.20 บาทต่อมวน และเก็บตามมูลค่าแบ่งเป็น 2 อัตรา คือ หากราคาขายปลีกแนะนำไม่เกินซองละ 72 บาท เสียภาษีตามมูลค่าในอัตรา 25% ส่วนบุหรี่ที่มีราคาขายปลีกแนะนำเกินซองละ 72 บาท เสียภาษีที่อัตรา 42%
สำหรับการจัดเก็บภาษีบุหรี่ในอัตราเดียว เพื่อให้การจัดเก็บเป็นไปตามหลักสากล และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย เนื่องจากการศึกษาข้อมูลพบว่าที่ผ่านมาทั่วโลกมีการเก็บภาษีบุหรี่เป็นแบบอัตราเดียวเหมือนกันทั้งหมด ยกเว้น 7 ประเทศในโลกมีการเก็บภาษีบุหรี่หลายอัตราเหมือนกับไทย เช่น อินเดีย อียิปต์ อุซเบกิสถาน เป็นต้น
สำหรับหลักการพิจารณาเก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว กรมจะพิจารณา 5 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
- ขนาดตลาดของบุหรี่ที่ลดลงทั่วโลก สวนทางปัญหาบุหรี่เถื่อน และบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
- ต้องคำนึงถึงเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในประเทศไทย จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
- การเก็บภาษีบุหรี่เหลืออัตราเดียวต้องไม่กระทบกับการเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต
- อัตราภาษีบุหรี่อัตราเดียวต้องเป็นสากลและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการในประเทศและผู้นำเข้าบุหรี่ต่างประเทศ
- ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของสุขภาพ ตามความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข