วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight''บางจาก ศรีราชา'' เซฟลงทุน ชี้ปัจจัยปีหน้ายังผันผวนหนัก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”บางจาก ศรีราชา” เซฟลงทุน ชี้ปัจจัยปีหน้ายังผันผวนหนัก

บางจาก ศรีราชา ระมัดระวังลงทุนปรับปรุงโรงกลั่น ชี้หลายปัจจัยผันผวนสูง ทั้งเศรษฐกิจโลก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และการเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลความต้องการน้ำมันลด พร้อมติดตามนโยบายทรัมป์หนุนการผลิตน้ำมัน

นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ (BSRC)  เปิดเผยว่าช่วงนี้สถานการณ์โลกไม่เอื้ออำนวย ทำให้ต้องระมัดระวังในการลงทุน จากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่กระเตื้องขึ้นแม้ว่าจีนจะออกแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ทำไม่ได้ดึงดูดเท่าที่ควร ดูจากค่าการกลั่นและราคาน้ำมันที่ไม่ได้สูงขึ้นมากนักแม้ว่าจะมีเหตุการณ์ไม่สงบในตะวันออกกกลาง และยังมีปัจจัยจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจีน ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลดลง

บัณฑิต หรรษาไพบูลย์

ส่วนนโยบายของโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ต้องติดตามให้รอบคอบ เพราะอาจจะเป็นปัจจัยหนุนให้กำลังการผลิตน้ำมันเพิ่ม ทำให้ราคาน้ำมันลดลงได้ อีกด้านก็มีโอกาสจะกลับมาแซงชั่นอิหร่านได้เช่นกัน ส่งผลให้น้ำมันดิบปรับขึ้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามีปัจจัยบวกและลบ ซึ่งต้องติดตามดูว่าด้านไหนจะแรงกว่า

สำหรับแนวทางการพัฒนาโรงกลั่นน้ำมันบางจากศรีราชา หลังจากการซื้อกิจการเอสโซ่ในปี 2566 บริษัทฯ เตรียมแผนการลงทุนทุนใหม่ 5 ตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2573 มุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงกลั่นในแต่ละหน่วย ซึ่งบางหน่วยมีอายุการใช้งานมานาน เพื่อยกระดับการผลิตโรงกลั่น โดยปีหน้าจะลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา ซึ่งเป็นโรงกลั่นเอสโซ่เดิมที่บางจากซื้อกิจการ สามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยกำลังการกลั่นสูงสุดที่ 154,200 บาร์เรลต่อวันในปัจจุบันในตอนนี้เมื่อรวมกับโรงกลั่นบางจาก พระโขนง มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวันสูงสุดในประเทศ โดยเทคโนโลยีการกลั่นของเอสโซ่และบางจากเน้นผลิตภัณฑ์คนละประเภท หลังจากที่ได้มีการประสานความร่วมมือระหว่างโรงกลั่น ทำให้ประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงขึ้น โดยผลรวม 3 ไตรมาสปีนี้ สามารถรับรู้ผลประโยชน์จากการร่วมมือกันกว่า 4,400 ล้านบาทสิ้นปีแตะ 5,000 ล้านบาท

การประสานความร่วมมือระหว่าง 2 โรงกลั่นไปได้อย่างดี โรงกลั่นบางจากมีความเชี่ยวชาญในการผลิตดีเซล ส่วนโรงกลั่นเอสโซ่ผลิตเบนซิน จึงช่วยเสริมกันได้อย่างดี รวมทั้งเพิ่มอำนาจต่อรองในการจัดหาและการขนส่งน้ำมันดิบร่วมกันทำให้ต้นทุนลดลง การซื้อหุ้นเอสโซ่ของบางจากฯ ยังได้หุ้นใน แทปไลน์ สัดส่วน 21% ช่วยเพิ่มช่องทางการขนส่งน้ำมัน ครอบคลุม ระยะทางจากระยอง ศรีราชา ลำลูกกา และสระบุรี ขณะที่บางจากมีหุ้นในเอฟพีที ระยะทางมักกะสัน ดอนเมือง บางปะอิน ลำปาง ดังนั้น synergy ทำให้เครือข่ายการขนส่งทางท่อของบางจากกว้างขวางขึ้น และสามารถแลกเปลี่ยนน้ำมันระหว่างกันได้  ช่วยลดการนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐานเพื่อผสมเอทานอลผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบางจาก

วรากร โกศลพิศิษฐ์กุล

นายวรากร โกศลพิศิษฐ์กุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจการตลาด กล่าวว่า BSRC เดินหน้าปรับภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมันจากแบรนด์เอสโซ่เป็น แบรนด์บางจาก  746 แห่ง ซึ่งปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 95%  และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2567  โดยได้นำผลิตภัณฑ์เกรด Premium มาจำหน่าย เช่น “Hi-Premium 97” “Hi-Premium Diesel S” และน้ำมันเครื่องคุณภาพของ Furio เพิ่มช่องทางการจำหน่าย อีกทั้งมีแผนเพิ่มร้านค้าในสถานีบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img