คลังเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนการบินไทย 20,000 ล้านบาท ถือหุ้นในสัดส่วน 40% ชี้หลังการปรับโครงสร้างทุนคาดออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในก.พ.68 จากนั้นจะกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์พ.ค.68
นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยความคืบหน้าการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในการบินไทยว่า จะต้องโอนเงินเพิ่มทุนให้แก่การบินไทยในวันที่ 12 ธ.ค.นี้วงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยได้นำรายได้ที่เป็นเงินฝากจากการบริหารหลักทรัพย์ของกระทรวงการคลังเข้ามาใช้ในการเพิ่มทุน ซึ่งหลังจากการเพิ่มทุนแล้ว กระทรวงการคลังจะถือหุ้น การบินไทยประมาณ 40% และไม่ทำให้การบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่ยังจะเป็นสายการบินแห่งชาติ
“ก่อนที่กระทรวงการคลังจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนและแปลงหนี้เป็นทุนร้อยเปอร์เซ็นต์ กระทรวงการคลังได้ถือหุ้นในการบินไทยอยู่ที่ 47.99% แต่เมื่อเจ้าหนี้ทั้งหมดของการบินไทยได้ใช้สิทธิในการแปลงหนี้เป็นทุนทั้งหมด ทำให้กระทรวงการคลังถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาอยู่ที่ประมาณ 30% แต่หลังจากที่ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วน ทำให้กระทรวงการคลังเข้าถือหุ้นรวม 40%
สำหรับการบินไทยหลังการปรับโครงสร้างทุนแล้ว ส่วนทุนของการบินไทยจะกลับมาเป็นบวก เข้าเงื่อนไขการยื่นออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ คาดว่าจะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ภายในเดือนก.พ.68 จากนั้นจะกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประมาณเดือนพ.ค.68
ปัจจุบันสัดส่วนโครงสร้างการถือหุ้นในการบินไทย ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง 33.4% รัฐวิสาหกิจอื่นๆ 4.1% กองทุนวายุภักษ์ 2.8% ผู้ถือหุ้นอื่นๆ (เดิม) 2.8% เจ้าหนี้ตามแผนการฟื้นฟูกิจการ 44.3% และผู้ถือหุ้นเดิมก่อนการปรับโครงสร้างเงินทุน พนักงาน และบุคคลในวงจำกัด ที่จองซื้อหุ้นสามัญ 12.6%
รายงานข่าวระบุว่า กระทรวงการคลังได้แจ้งในแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการหรือแบบ 246-2 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถึงการได้มาหุ้นการบินไทย ในจำนวน 5,264,088,562 หุ้น คิดเป็น 22.7172%
โดยเป็นการได้มาจากการแปลงหนี้เป็นทุน เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 ซึ่งภายหลังการได้มาดังกล่าว ทำให้กระทรวงการคลังถือหุ้นการบินไทย เพิ่มเป็น 6,308,825,753 หุ้น หรือ 27.2258%
