ราคาทองคำวันนี้ร่วง 250 บาท หลังดอลลาร์แข็ง ส่งผลให้ทองแท่งขายบาทละ 42,950 บาท ทองรูปพรรณขายบาทละ 43,450 บาท
รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ราคาทองคำวันนี้ร่วง 250 บาท โดย ราคาทอง gold spot นิวยอร์กอยู่ที่ 2,649.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเดิมอยู่ที่ 2,674 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เงินบาทอยู่ที่ระดับ 34.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมเงินบาทอยู่ที่ระดับ 34.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งซื้อบาทละ 42,850 บาท ขายออกบาท 42,950 บาท ราคาทองรูปพรรณซื้อบาท 42,084.16 บาท ขายออกบาทละ 43,450บาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันศุกร์ (13 ธ.ค.) จากแรงขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี และถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นด้วย แต่ราคาทองคำยังคงปิดบวกในรอบสัปดาห์นี้จากความคาดหวังที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 33.60 ดอลลาร์ หรือ 1.24% ปิดที่ 2,675.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำปรับตัวลงถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐยังคงทรงตัวที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.04% แตะที่ระดับ 107.003 ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ๆ
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังเผชิญกับแรงขายทำกำไร หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.ในวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) และเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้
นายดาเนียล พาวิโลนิส นักยุทธศาสตร์ตลาดอาวุโสที่อาร์เจโอ ฟิวเจอร์ (RJO Futures) กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างมากในปีนี้ และเรากำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของปี ซึ่งอาจเห็นการปรับตัวลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์สุดท้าย แต่ผมคิดว่าจะเป็นเพียงชั่วคราว และเชื่อว่าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่านี้
ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย, การที่ธนาคารกลางเข้าซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่ง และความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดหลายครั้งในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ในขณะนี้ว่า มีโอกาส 97% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การแสดงความคิดเห็นของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อวิเคราะห์นโยบายการเงินของสหรัฐฯ ในปี 2568 โดยเฉพาะในแง่ของแผนภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นอีก ธนาคารกลางมักจะรักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนทางเลือกในการถือทองคำที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปของอัตราดอกเบี้ย
“โดยทั่วไปแล้ว เราคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งขึ้นในปีหน้า ซึ่งน่าจะทำให้มีโอกาสน้อยลงสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะมีผลเชิงบวกน้อยลงสำหรับทองคำ” คาร์สเทน เมนเค่ นักวิเคราะห์จากจูเลียส แบร์ (Julius Baer) กล่าว
