“สุริยะ” กางแผนลงทุนเมกะโปรเจกต์ปี 68 คาดใช้เม็ดเงินลงทุน 6.21 แสนล้าน ทั้งรถไฟความเร็วสูง-รถไฟทางคู่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ-ก่อให้เกิดการจ้างงานในประเทศ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เปิดเผยถึงแผนการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ว่า ในปี 2568 มีแผนลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทย – จีน ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร วงเงิน 3.41 แสนล้านบาท โดยอยู่ระหว่างเสนอเรื่องต่อกระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ( สศช.) พิจารณาภายใน 1-2 เดือน ก่อนเสนอ ครม. เห็นชอบ และคาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปี 2568
นอจากนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)จะเร่งเปิดประกวดราคาก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ให้ครบ 7 เส้นทาง วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.8 แสนล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบราง ขยายโครงข่ายเส้นทางรถไฟทางคู่เพิ่มเติมอีก 1,488 กิโลเมตร คาดว่าในเดือน ม.ค.2568 จะเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบดำเนินการประกวดราคารถไฟทางคู่ทั้ง 6 เส้นทาง หลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนเตรียมเอกสารประกวดราคา (TOR)
ปัจจุบัน รฟท.ได้ลงนามสัญญาในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น – หนองคาย กับกิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง มูลค่าโครงการ 28,679 ล้านบาท หลังจากโครงการผ่านการอนุมัติจาก ครม. เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 และ รฟท.ได้เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 67 ปรากฏว่า มีผู้สนใจเข้ายื่นเอกสารทั้งสิ้น จำนวน 4 ราย พบว่า กิจการร่วมค้า ช.ทวี – เอเอส ก่อสร้าง เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด
โดยภายหลังการลงนามสัญญาครั้งนี้ รฟท.จะเร่งประสานสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เพื่อดำเนินการจัดหาแหล่งเงินกู้นำมาดำเนินโครงการนี้ เบื้องต้นประเมินว่าจะสามารถลงนามสัญญาเงินกู้ได้ในช่วงปลายเดือน ก.พ.68 หลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนเตรียมเอกสารอนุญาตให้เอกชนเข้าพื้นที่ (NTP) จึงคาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่และให้เอกชนเริ่มงานก่อสร้างได้ในเดือน เม.ย.68 โดยใช้เวลาก่อสร้างราว 3 ปี แล้วเสร็จเปิดบริการในปี 71
