“พาณิชย์” แนะผู้ประกอบการไทยขยายตลาดสัตว์เลี้ยง-อาหารสัตว์-การบริการ หลังวัยรุ่นจีนนิยมเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น และเลี้ยงเสมือนลูกหรือสมาชิกในครอบครัว คาดมูลค่าตลาดแตะ 1.8 ล้านล้านบาทในปี 69
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนายนิติ ประทุมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ หนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงการเติบโตของตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในจีน และโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์และบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของไทยเข้าสู่ตลาดจีน เพื่อรองรับการเติบโตของการเลี้ยงสัตว์ในจีน
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า ปัจจุบันกลุ่มวัยรุ่นจีนนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เลี้ยงเสมือนลูกหรือสมาชิกในครอบครัว ยินยอมจ่ายของกิน ของใช้ และบริการในระดับพรีเมียม ส่งผลให้ตลาดบริโภคสัตว์เลี้ยงเติบโตเพิ่มขึ้น โดยปี 2566 มีมูลค่า 2.793 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 7.5% คาดว่าถึงปี 2569 มูลค่าตลาดจะสูงถึง 3.6 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท และมีจำนวนสัตว์เลี้ยง ในปี 2566 จำนวน 120 ล้านตัว เป็นสุนัข 51.75 ล้านตัว เพิ่ม 11% แมว 69.8 ล้านตัว เพิ่ม 6.8% มีครอบครัวที่เลี้ยงสัตว์ 105.65 ล้านครอบครัว
ทั้งนี้ จากความต้องการเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจอาหารและผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเปียก อุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม รวมไปถึงธุรกิจบริการที่เปิดให้บริการสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงแรม รถไฟความเร็วสูง และเครื่องบิน เป็นต้น เพื่อดึงดูดให้ผู้เลี้ยงสัตว์มาใช้บริการ
ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพใหม่ในจีนยกตัวอย่างเช่น เครื่องบินเช่าเหมาลำ สายการบิน Hainan Airlines ได้ขนสัตว์เลี้ยง 20 ตัว และเจ้าของ เดินทางจากจีนมาไทย เพื่อท่องเที่ยวจำนวน 9 วัน ซึ่งถือเป็นเที่ยวบินแรกที่ให้บริการแบบนี้ และแพลตฟอร์ม Dianping.com ได้ร่วมมือกับ Royal Canin จัดกิจกรรม “Pet Sleep Officer” คัดเลือกและเชิญชวนสัตว์เลี้ยงไปทดลองพักที่โรงแรม ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และยังมีแผนท่องเที่ยว ที่ครอบคลุมสถานที่ให้บริการสัตว์เลี้ยงกว่า 900 แห่ง ร้านสัตว์เลี้ยงและโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง 150 แห่งจาก 6 เมืองของจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น เฉิงตู หนานจิง และซูโจว เพื่อให้คำแนะนำกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงในเมื่อพาสัตว์เลี้ยงไปท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังมีการพาสัตว์เลี้ยงไปรับบริการรักษาพยาบาลแพทย์แผนจีน ที่กำลังเป็นกระแสที่นิยมในตลาดจีน โดยแพทย์แผนจีนจะให้บริการการจับชีพจร (แมะ) เพื่อวิเคราะห์อาการ และมีการรักษาด้วยวิธีการฝังเข็ม นวดประคบ ให้ยาสมุนไพร และเมนูอาหารเพื่อบําบัด เป็นต้น โดยอุปกรณ์และการรักษาจะเหมือนกับการให้บริการกับคนไข้ทั่วไป ซึ่งได้เห็นผลการรักษาที่ดีต่อสัตว์เลี้ยงทำให้เป็นทางเลือกให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยง ส่งผลให้ตลาดการรักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยงมีมูลค่าสูงถึง 6,126 ล้านหยวน และคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 13,600 ล้านหยวนในปี 2569
ขณะเดียวกัน ในเมืองชั้นนำหลายเมือง ได้มีการเพิ่มธุรกิจบริการที่น่าสนใจอีกหลายรูปแบบ เช่น โรงเรียนสัตว์เลี้ยง การรับพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่น รับถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง งานศพสัตว์เลี้ยง ธุรกิจกีฬาและบันเทิงของสัตว์เลี้ยง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดดังกล่าวยังมีโอกาสเติบโตและขยายขอบเขตธุรกิจได้อย่างมหาศาลในอนาคต
“กระแสการเลี้ยงสัตว์ที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว ทำให้ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโต โดยเฉพาะในตลาดจีนที่ได้นำสาขาธุรกิจสัตว์เลี้ยงเกิดขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มูลค่าตลาดมีการเติบโตอย่างมหาศาลต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสที่มีศักยภาพของผลิตภัณฑ์และบริการของไทยที่จะไปทดลองในตลาดจีน โดยผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่ประสงค์มาบุกตลาดจีน ควรติดตามกระแสการบริโภคของจีนอย่างใกล้ชิด ตลอดจนพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการของสัตว์เลี้ยงที่สอดคล้องกับความต้องการของเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้มีโอกาสในการเจาะตลาดเพิ่มมากขึ้น”