ม.หอการค้าไทยประเมินรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 50,000 บาท เตรียมเสนอครม.พรุ่งนี้-คุณสู้ เราช่วย-แจกเงินหมื่นเฟส 2-ช่วยชาวนาไร่ละ 1 พันบาท หนุนเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 1.0-1.5 แสนล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่ามาตรการ Easy E-Receipt กระทรวงฯ เตรียมเสนอมาตรการลดหย่อนภาษี โครงการ Easy E-Receipt (อีซี่ อี-รีซีท) เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนวงเงิน 50,000 บาท เริ่มตั้งแต่ 15 ม.ค.-28 ก.พ.2568 โดยสามารถนำใบกำกับภาษีดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2568 นั้น จะทำให้มีแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
โดยมาจากการใช้จ่ายภาครัฐ การขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนการส่งออกและการท่องเที่ยวที่โดดเด่น ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศในช่วง 11 เดือน 15 วัน ประมาณ 33.5 ล้านคน และสิ้นปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 36 ล้านคน และมองว่ากำลังซื้อและการบริโภคในไตรมาส 4 ปี 2567 เชื่อว่าจะอยู่ในระดับดี เพราะดูจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีในไตรมาส 3 ประมาณ 3% ต่อเนื่องในไตรมาส 4 โต 4% ทั้งนี้คาดว่าจีดีพีปีนี้โตเท่าเดิมที่ 2.6% โดยภาคบริการหรือภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ส่วนการส่งออก มีแนวโน้มขยายตัวได้ 4.6% การใช้จ่ายภาครัฐ ขยายตัว 1.6% ส่วนการลงทุนภาครัฐ ขยายตัว 2%
ทั้งนี้มองว่าในต้นปีหน้ารัฐบาลก็ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งน่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 40,000 ล้านบาท บวกกับมาตรการ คุณสู้ เราช่วย พักดอกเบี้ย ลดการชำระเงินต้น ซึ่งจะมีการลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2567-28 ก.พ.2568 ซึ่งน่าจะเริ่มมีผลในปลายไตรมาส 1/68
โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนทั้งปีอย่างน้อย 80,000-100,000 ล้านบาท ที่ประชาชนจะประหยัดไปได้ และธนาคารเองก็จะสามารถปล่อยเงินกู้ได้ต่อ และมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท คาดว่าเงินจะหมุนเข้าระบบประมาณ 40,000 ล้านบาท
อย่างไรจากก็ตามมาตรการดังกล่าว จะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 1.0-1.5 แสนล้านบาท จะมีผลให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1/68 ดีขึ้น อีกทั้งในช่วงไตรมาสแรกซึ่งเป็นไฮซีซั่น คาดว่าจะมีนักเที่องเที่ยวเข้ามากเพราะปีตั้งเป้าว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 40 ล้านคน ซึ่เป็นแรงส่งเศรษฐกิจไทย กำลังซื้อ และการบริโภค ภายใต้เงื่อนไขไม่มีการปัญหาผลกระทบสงครามการค้าที่รุนแรง สงครามรัสเซีย-ยูเครน สงครามในตะวันออกกลาง บานปลายรุนแรง และการเมืองไม่สงบ
