นายกฯ คิกออฟ กดปุ่มโอนเงินหมื่น เฟส 2กลุ่ม 60 + กว่า 3 ล้านคนทั่วประเทศ เติมเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ย้ำกรณีโอนไม่ผ่านหรือติดขัดในวันนี้รัฐบาลจะโอนซ้ำอีก 3 รอบ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 28 มีนาคม และ28เมษายน จากนั้นจะนำข้อมูลมาพิจารณา เพื่อกำหนดวิธีสำหรับผู้ไม่มีสมาร์ตโฟนต่อไป
เมื่อวันที่ 27 ม.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน (Kick Off) โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผู้สูงอายุ โดยนายกฯ กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐบาลได้เน้นย้ำและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในเฟสแรกมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ จำนวน 14 ล้านคน โดยได้มอบเงิน จำนวน 10,000 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากมาย มีการจับจ่ายซื้อของทำให้เศรษฐกิจกระตุ้นขึ้น และบางครอบครัวได้นำเงินมารวมกันเพื่อต่อยอดทำธุรกิจสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้เป็นเฟสที่สองของการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะจ่ายเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนให้ผู้สูงอายุจำนวนกว่า 3,000,000 คน ส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยเป็นจำนวนประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับประชาชน และหวังให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเงินจำนวนนี้ เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ แบ่งเบาภาระได้หลาย ๆ อย่าง และนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กดยืนยันการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดตัวโครงการฯ อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง และสร้างความเชื่อมั่นต่อการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
ภายหลังกดปุ่มโอนเงิน นายกรัฐมนตรีรับฟังความรู้สึกจากตัวแทนกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุต่างขอบคุณรัฐบาลที่เห็นความสำคัญ ไม่ทอดทิ้งกลุ่มผู้สูงอายุ มอบโอกาสให้ผู้สูงอายุมีเงิน 10,000 บาท เพื่อนำเงินที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และครอบครัว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยผ่านระบบ Video Conference กับป้าจันทร์ อายุ 79 ปี อาชีพแม่ค้าขายไข่สด โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายป้าจันทร์ว่า วันนี้หน้าตาสดใส ทางด้านป้าจันทร์กล่าวว่า หน้าตาสดใสเพราะดีใจที่ได้รับเงิน 10,000 จากรัฐบาล พร้อมกับกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ดำเนินโครงการที่ดีเป็นประโยชน์ โดยจะนำเงินที่ได้รับไปซื้อไข่มาขายต่อ และเงินอีกส่วนหนึ่งจะนำไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน พร้อมกับกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ขอให้มีกำลังใจที่ดีในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจป้าจันทร์ ขอให้มีกำลังใจในการประกอบอาชีพ และมีสุขภาพที่แข็งแรง
“ เงินสนับสนุน เฟส 2 นี้ หากดำเนินการโอนแล้วติดขัดเรื่องใดๆจากจำนวนผู้ลงทะเบียน รัฐบาลจะ โอนซ้ำอีก 3 ครั้งในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 28 มีนาคม และ 28 เมษายน ปีนี้และหากพ้นกำหนด 3 ครั้ง ก็จะ ตรวจสอบว่าเหลืออยู่จำนวนเท่าไร เพื่อนำมากำหนดวิธีสำหรับผู้ไม่มี สมาร์ตโฟนต่อไป “
สำหรับโครงการนี้ ทางกระทรวงการคลังจะ โอนเงินสนับสนุน 10,000 บาท ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยการโอนเข้าบัญชีเงินฝากที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งมีผู้ได้รับสิทธิจำนวนกว่า 3.02 ล้านคน
กรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) อีก 3 ครั้ง ได้แก่
– ครั้งที่ 1 วันที่ 28 ก.พ.68 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 25 ก.พ.68
– ครั้งที่ 2 วันที่ 28 มี.ค.68 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 25 มี.ค.68
– ครั้งที่ 3 วันที่ 28 เม.ย.68 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 23 เม.ย.68
ทั้งนี้ หากจ่ายอีก 3 ครั้ง ครบแล้ว จะยุติการจ่ายเงินและถือว่าผู้มีสิทธิไม่ประสงค์จะรับเงินโครงการฯ
ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินได้ที่แอพพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ส่วนกรณีผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิในโครงการฯ และมองว่าผลการตรวจสอบไม่ถูกต้อง สามารถสอบถามหรือแจ้งอุทธรณ์สิทธิได้ผ่าน โทร.1111 ตลอด 24 ชม.