รัฐบาลยืนยันจัดงบประมาณด้านสาธารณสุข 1.17 แสนล้านบาท ไว้ต่อสู้กับโรค “โควิด” เผยจ่ายไปแล้ว 8.7 หมื่นล้านบาท พร้อมกันงบสำรองอีก 3 หมื่นล้านบาทใน พ.ร.ก.เงินกู้ฯเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของโรค และให้ทันสถานการณ์
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.64 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่ตนได้ติดตามการอภิปรายของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณแผ่นดินประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 พบว่า ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในเรื่องการจัดสรรงบประมาณด้านสาธารณสุขให้แก่การป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอชี้แจงเพื่อให้ประชาชนได้สบายใจว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างสูงสุด และได้จัดสรรวงเงินที่จะใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับด้านสาธารณสุข เบื้องต้นจำนวน 117,000 ล้านบาท และในร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2565 ยังจัดงบประมาณด้านการแพทย์และสาธารณสุขตามภารกิจของหน่วยงานที่ประกอบด้วยงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน กองทุนภูมิปัญหาการแพทย์แผนไทย วงเงินรวม 295,000 ล้านบาท
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า ในช่วงปีงบประมาณ 2563-2564 รัฐบาลจัดสรรวงเงินงบประมาณจากทั้งงบกลางกรณีฉุกเฉิน และพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ไปแล้วจำนวน 87,862 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น
-ค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภาคสนาม และ อสม. 22,146 ล้านบาท
-การจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ 1,824 ล้านบาท
-ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด 29,304 ล้านบาท
-ค่าใช้จ่ายด้านวัคซีน ทั้งการวิจัยพัฒนาในประเทศ รวมไปถึงค่ารักษากรณีอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนด้วย 21,134 ล้านบาท
-การเฝ้าระวัง ป้องกันและค้นหาเชิงรุก 6,483 ล้านบาท
-การจัดตั้งสถานกักตัวของรัฐ (State Quarantine – SQ) และ สถานที่กักกันโดยองค์กรต่าง ๆ (Organizational Quarantine – OQ) 6,452 ล้านบาท
-การเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน 519 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีเงินกู้ตามพระราชกำหนด ฉบับเพิ่มเติม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว เมื่อ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา อีกจำนวน 30,000 ล้านบาท (จากกรอบวงเงินกู้ 5 แสนล้านบาท) เพื่อเตรียมพร้อมรับความไม่แน่นอนของการระบาดของโรคโควิด19 ซึ่งการใช้เงินเพื่อแก้ปัญหาโควิด19 จากพ.ร.ก.เงินกู้ จะทำได้เร็วกว่าและทันสถานการณ์มากกว่าการรอใช้จาก พ.ร.บ. งบประมาณปี 2565 ที่กว่าจะเริ่มใช้ในเดือนต.ค. 2564
“ขอให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและมีงบประมาณเพียงพอในการจัดการสถานการณ์โควิด19 ทั้งการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ วัคซีนเพื่อบริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 และการดูแลบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เน้นย้ำว่า รัฐบาลจัดสรรงบประมาณโดยคำนึงถึงการบริหารประเทศทั้ง 2 ช่วงเวลา ทั้งช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด19 และหลังสถานการณ์ เพี่อขับเคลื่อนประเทศต่อเนื่องในทุกมิติทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและสุขภาพ” น.ส.รัชดา กล่าว