“พิชัย” ถก 4 สมาคมมันสำปะหลังไทย คาดส่งออกปีนี้กว่า 1.05 ล้านตัน มูลค่ารวมกว่า 6,500 ล้านบาท หลังเดินสายจัดกิจกรรมขยายตลาดในจีน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมติดตามสถานการณ์การค้ามันสำปะหลัง ร่วมกับสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทยพบว่า การส่งออกสินค้ามันสำปะหลังในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.05 ล้านตัน มูลค่ารวมกว่า 6,500 ล้านบาท
“ปัจจัยสำคัญมาจากปริมาณคำสั่งซื้อจากผู้ประกอบการในต่างประเทศในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดการค้ามันสำปะหลังของจีนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวไม่เพียงแต่ตอกย้ำศักยภาพของมันสำปะหลังไทยในตลาดโลก แต่ยังเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่จะมีตลาดรองรับในการสร้างแรงจูงใจในการปลูกมันสำปะหลังที่มีคุณภาพต่อไป”
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัท New Hope Liuhe Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับต้นในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์จีนมีความสนใจที่จะเจรจาซื้อขายมันเส้นของไทยในปริมาณมากเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของจีนตอนใต้ 3 มณฑล ได้แก่ กว่างโจว กว่างซีจ้วง และฝูเจี้ยน มีปริมาณการผลิตอาหารสัตว์รวมกันสูงถึง 100 ล้านตันต่อปี จึงมีศักยภาพสูงมากในการรองรับผลผลิตมันสำปะหลังของพี่น้องเกษตรกรไทย ดังนั้น ความสำเร็จในครั้งนี้จึงนับเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทยทั้งระบบในระยะยาว
นอกจากนี้กรมการค้าต่างประเทศ จะยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินภารกิจขยายตลาดส่งออกสำหรับสินค้ามันสำปะหลัง โดยเร่งผลักดันการส่งออกมันอัดเม็ดมากขึ้นและหาตลาดใหม่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย อาทิ อาหารสัตว์ อาหารและเครื่องดื่ม กาว กระดาษ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดเดียว รวมถึงการจัดประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลกปี 2568 (World Tapioca Conference 2025) ในเดือนมิถุนายน 2568 ณ กรุงเทพฯ อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตและการค้ามันสำปะหลัง สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของสินค้ามันสำปะหลัง ตอกย้ำถึงศักยภาพของไทยในฐานะผู้ส่งออกสินค้ามันสำปะหลังอันดับหนึ่งของโลก ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังว่าจะมีตลาดที่ดีรองรับ และสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เหมาะสมสอดคล้องกับกลไกตลาดโลกอย่างต่อเนื่องต่อไป