ราคาทองคำร่วง 50 บาท จับตาการตั้งโต๊ะเจรจารัสเซีย-ยูเครนหากได้ข้อยุติ ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวลง โดยทองแท่งวันนี้ขายบาทละ 46,450 บาท ทองรูปพรรณขายบาทละ 47,250 บาท
รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ราคาทองคำวันนี้ร่วง 50 บาท ตามราคาต่างประเทศ โดยราคาทอง gold spot นิวยอร์กอยู่ที่ 2,912.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเดิมอยู่ที่ 2,912.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.74 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งซื้อบาทละ 46,400 บาท ขายออกบาท 46,500 บาท ราคาทองรูปพรรณซื้อบาท 45,570.96 บาท ขายออกบาทละ 47,300 บาท
รายงานข่าวจากบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด แจ้งว่า ราคาทองโลกในสัปดาห์ก่อน โดยรวมเคลื่อนตัวในกรอบ 2,890-2,930 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ นอกเหนือจากประเด็นสงครามการค้าที่ส่งผลต่อราคาทองแล้ว สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังเป็นตัวชี้ชะตาแนวโน้มในสัปดาห์นี้ แต่อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่ดูมีท่าทีผ่อนปรน และเริ่มมีข่าวการตั้งโต๊ะเจรจากันอีกครั้งนั้น สะท้อนว่าสงครามนี้อาจมีโอกาสยุติลง ซึ่งอาจส่งผลเชิงลบต่อราคาทองโลก
ขณะที่ทางด้านนาย ราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ได้ออกมาแถลงการณ์ช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ว่ายังมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะผันผวนอย่างมาก เฟดมีกำหนดประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งถัดไปในวันที่ 18-19 มี.ค.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ในช่วงปัจจุบันที่ 4.25%-4.50%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะมีผลกับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ขณะเดียวกันทรัมป์ส่งสัญญาว่า การผ่อนปรนมาตรการภาษีนำเข้าสำหรับผู้ผลิตรถยนต์จะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น โดยกล่าวว่าเขาจะไม่ลงนามขยายเวลาการเก็บภาษีอีกในเดือนหน้า
ขณะที่สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% มีผลบังคับใช้วันที่ 4 มี.ค.2568 เพิ่มจากเดิมที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อ 4 ก.พ.2568 โดยทางสหรัฐฯ ระบุว่าทางการจีนยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการลักลอบนำเข้าเฟนทานิลที่ไหลเข้าสู่สหรัฐฯ ได้เพียงพอ ในระยะเวลา 1 เดือน สหรัฐฯปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นแล้วทั้งหมด 20% โดยทางการจีนก็ออกมาตรการภาษีโต้ตอบสหรัฐฯ กลับในทันที ซึ่งครอบคลุมสินค้าจำพวกอาหาร และสินค้าเกษตร เช่น เนื้อไก่ ผ้าฝ้าย รวมถึงถั่วเหลืองที่เคยถูกใช้เป็นเครื่องมือของจีน ความรุนแรงดูเริ่มหนักขึ้น หลังจากสถานทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกาโพสต์ข้อความจากกระทรวงการต่างประเทศจีนผ่านช่องทาง X โดยประกาศเตือนว่า จีนมีความพร้อมที่จะ ‘ทำสงครามรูปแบบใดก็ได้’
