วันจันทร์, มีนาคม 31, 2025
หน้าแรกHighlight“พาณิชย์”ชี้เป้า“ตลาดออนไลน์”อิตาลีบูม ชงผู้ส่งออกทำตลาดอาหารเสริม-วิตามิน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“พาณิชย์”ชี้เป้า“ตลาดออนไลน์”อิตาลีบูม ชงผู้ส่งออกทำตลาดอาหารเสริม-วิตามิน

“สุนันทา” เผยชาวอิตาเลียนนิยมซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น จากสถิติในปี 67 อาหารเสริมและวิตามินมากสุด รองลงมาเป็นโทรศัพท์มือถือ ตู้เย็น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เครื่องปรับอากาศ และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนางสาวอนงค์นารถ มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน อิตาลี ถึงการเติบโตของตลาดออนไลน์ในอิตาลี และโอกาสในการใช้ช่องทางออนไลน์ประชาสัมพันธ์สินค้าไทย เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นการบริโภค และการซื้อสินค้าไทย

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา ตลาดดิจิทัลของอิตาลีขยายตัวอย่างต่อเนื่องมีปัจจัยมาจากผู้บริโภคในประเทศมีความตระหนักในการออมเงินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาให้ความใส่ใจในการเปรียบเทียบราคาก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าในแต่ละครั้งเพิ่มขึ้น โดยจากข้อมูลของเว็บไซต์ Trovaprezzi.it (เว็บไซต์อันดับหนึ่งของอิตาลีสำหรับเปรียบเทียบราคาสินค้าที่มีความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ใช้จำนวนมากในการค้นหาผลิตภัณฑ์ในราคาที่ดีที่สุด) แจ้งว่า ปี 2567 มีการค้นหาข้อมูลสินค้าบนเว็บไซต์ Trovaprezzi.it สูงถึง 252 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีจำนวน 230 ล้านครั้ง

ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอิตาลีต่อการชอปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นโดยหมวดผลิตภัณฑ์ที่ถูกค้นหา เพื่อเปรียบเทียบราคาบนเว็บไซต์ Trovaprezzi.it มากที่สุดในปี 2567 คือ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและวิตามิน มีการค้นหามากกว่า 24.2 ล้านครั้ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.63% ของจำนวนการค้นหาทั้งหมด

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความใส่ใจของชาวอิตาเลียนต่อการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี อันมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการส่งเสริมถึงการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสำคัญของการดูแลและป้องกันสุขภาพของผู้บริโภคในประเทศ

ส่วนโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน มีการค้นหามากกว่า 12.4 ล้านครั้ง สัดส่วน 4.96% เนื่องจากผู้บริโภคในประเทศให้ความสนใจในอุปกรณ์ที่ใช้นวัตกรรมเพิ่มขึ้น รองลงมา คือ ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง มีการค้นหา 7.6 ล้านครั้ง สัดส่วน 3.02%อันมีผลมาจากแรงจูงใจจากรัฐบาลในการสนับสนุนเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน

นอกจากนี้ ยังมีหมวดสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้รับความสนใจในการค้นหา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ 7.46 ล้านครั้ง เครื่องปรับอากาศและเครื่องลดความชื้น 6.6 ล้านครั้ง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า 6.25 ล้านครั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า 5.94 ล้านครั้ง ขณะที่ผลิตภัณฑ์ยา (ที่ไม่มีใบสั่งจากแพทย์) 5.12 ล้านครั้ง น้ำหอม 4.77 ล้านครั้ง และรองเท้าผ้าใบและรองเท้ากีฬา 4.59 ล้านครั้ง

สำหรับการค้นหาข้อมูลสินค้าผ่านสมาร์ทโฟน มีสัดส่วนสูงถึง 73.5% เพิ่มขึ้น 18.1% และยังพบว่าการค้นหาข้อมูลโดยผู้หญิง เพิ่มขึ้น 19.5% หรือมากกว่า 119 ล้านครั้ง คิดเป็นสัดส่วน 47.52% ของจำนวนการค้นหาทั้งหมดของผู้บริโภคในอิตาลี และการค้นหาข้อมูลโดยผู้ชาย มีจำนวน 132 ล้านครั้ง สัดส่วน 52.48% โดยกลุ่มอายุของผู้บริโภคออนไลน์ที่นิยมการค้นหาข้อมูลออนไลน์ ได้แก่ กลุ่มอายุ 35-44 ปี สัดส่วน 22.09% กลุ่มอายุ 25-35 ปี สัดส่วน 21.85% และกลุ่มอายุ 45-54 ปี สัดส่วน 21.74%

ขณะที่อายุเฉลี่ยของผู้บริโภคออนไลน์มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ กลุ่มอายุ 45-54 ปี กลุ่มอายุ 55-64 ปี และกลุ่มอายุมากกว่า 65 ปี มีอัตราการเพิ่มขึ้นที่ 31%, 28% และ 32% ตามลำดับ ซึ่งเป็นสัญญาณของการรวมกลุ่มคนหลายรุ่นเข้าในโลกของอีคอมเมิร์ซมากขึ้น

โดยแคว้นที่มีการค้นหาข้อมูลผ่านอีคอมเมิร์ซมากที่สุด คือ แคว้นลอมบาร์ดี มีการค้นหามากกว่า82.8 ล้านครั้ง สัดส่วน 33% รองลงมา คือ แคว้นลาซิโอ สัดส่วน 15% และแคว้นคัมปาเนีย สัดส่วน 8%โดยแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา แคว้นเวเนโต แคว้นพีดมอนต์ แคว้นซิซิลี แคว้นทัสคานี และแคว้นปูเกลีย มีสัดส่วนอยู่ที่ 5-7% ต่อแคว้น

ทั้งนี้จากแนวโน้มการเติบโตของการค้นหาข้อมูลสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซในอิตาลี เพราะผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้า มีข้อมูลและตระหนักรู้มากขึ้น โดยที่ผ่านมา อิตาลีถือเป็นประเทศที่ระบบอีคอมเมิร์ซเข้ามามีบทบาทช้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในยุโรป แต่เนื่องจากวิวัฒนาการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ในอิตาลีปรับตัวตามกระแสโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัล

ซึ่งข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ปี 2567 ผู้บริโภคในอิตาลีให้ความสนใจค้นหาข้อมูลสินค้าที่เกี่ยวข้องด้านสุขภาพและด้านความสวยความงาม มีสัดส่วนสูงถึง 19% จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ที่ต้องการเจาะตลาดอิตาลี โดยควรใช้ช่องทางออนไลน์ในการแนะนำสินค้า ประชาสัมพันธ์สินค้า โดยร่วมมือกับผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย ก็จะทำให้สินค้ามีโอกาสเข้าสู่ตลาดอิตาลีได้เพิ่มขึ้น

ในปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้ามายังอิตาลีมีมูลค่า 2,155.32 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.72% โดยสินค้าที่อยู่ในกลุ่มที่ผู้บริโภคในอิตาลีให้ความสนใจในการค้นหาข้อมูลที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มูลค่า 268.84 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.94% และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 44.31 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 137.30% เป็นต้น

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img