ราคาทองคำวันนี้ขึ้น 150 บาท นักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลว่า สงครามการค้าทั่วโลกอาจปะทุ ส่งผลให้ทองแท่งขายบาทละ 49,600 บาท ทองรูปพรรณขายบาทละ 50,400 บาท
รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ราคาทองคำปรับขึ้น 150 บาท โดยราคา gold spot นิวยอร์กอยู่ที่ 3,085.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเดิมอยู่ที่ 3,085 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เงินบาทอยู่ที่ 33.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.87 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งซื้อบาทละ 49,500 บาท ขายออกบาทละ 49,600 บาท ราคาทองรูปพรรณซื้อบาทละ 48,602.96 บาท ขายออกบาทละ 50,400 บาท
สำหรับสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ (28 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลว่า สงครามการค้าทั่วโลกอาจปะทุขึ้นจากมาตรการภาษีนำเข้าล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 23.40 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 3,114.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 2.96% ในรอบสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาษี, การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
โดยทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มักถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง และมักได้รับแรงหนุนในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
ส่วนข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.3% และเท่ากับตัวเลขของเดือน ม.ค.
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนักต่อการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าที่คาดเพียงเล็กน้อย ขณะที่เฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยไป 3 ครั้งในปี 2567 และมีสัญญาณว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวม 0.5% ภายในปีนี้โดยตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวม 0.63% ภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ตาม บรรดานักลงทุนกำลังจับตาแผนการของทรัมป์ในการกำหนดมาตรการภาษีตอบโต้ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า นโยบายของทรัมป์อาจส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น, สร้างความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และทำให้ความตึงเครียดด้านการค้ารุนแรงขึ้น