“ดนุชา”เผยเศรษฐกิจซบเอสเอ็มอีปิดกิจการกว่า 2.4 หมื่นแห่ง -โรงงานปิดกิจการ 1,234 แห่ง ระบุเด็กจบใหม่เสี่ยงตกงาน เหตุไม่มีประสบการณ์ทำงาน โดยผู้บริหารหันไปจ้างฟรีแลนซ์ พนักงานที่เกษียณแทน
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์แรงงานไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 พบว่ามีผู้มีงานทำรวม 39.4 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.5% โดยแรงงานภาคเกษตรยังคงมีการจ้างงานในระดับคงที่ ส่วนแรงงานนอกภาคเกษตร เช่น การผลิต โรงแรม ร้านอาหาร และค้าปลีก มีการจ้างงานลดลง
แม้การท่องเที่ยวจะยังมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่การจ้างงานในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว เช่น โรงแรมและร้านอาหาร ยังคงลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานชั่วคราว ขณะที่ชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์อยู่ที่ 40.8 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
นอกจากนี้ยังพบว่าแรงงานที่อยู่ในภาวะต่ำกว่าศักยภาพ Underemployment) ซึ่งทำงานไม่เต็มเวลา หรืองานไม่สอดคล้องกับความสามารถ มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคการค้าและบริการ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการผลักดันให้เกิดการปรับตัวของธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่จ้างงานสูง ทึ่ผ่านมามี SMEs ปิดกิจการไปกว่า 2.4 หมื่นแห่ง และโรงงานปิดกิจการ 1,234 แห่ง ทำให้กระทบการจ้างงานในส่วนนี้ประเด็นสำคัญที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญคือการยกระดับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงส่งเสริมทักษะใหม่ให้แก่แรงงาน เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานในอนาคตซึ่งภาครัฐจะเร่งขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อให้แรงงานรุ่นใหม่มีความพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนอัตราการว่างงานในไตรมาสนี้อยู่ที่ 0.88% ลดลงจาก 1.01 %ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีผู้ว่างงานประมาณ 360,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เพิ่งจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย อุดมศึกษา และยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน
นอกจากนี้จากการสำรวจพบว่า กลุ่ม “เด็กจบใหม่” ยังคงเป็น กลุ่มที่เผชิญความเสี่ยงด้านการจ้างงานมากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีทักษะเฉพาะทางหรือขาดประสบการณ์ซึ่งผลสำรวจ พบว่า ผู้บริหารกว่า 89 % มีแนวโน้มที่จะเลี่ยงการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ เพราะมองว่าขาดประสบการณ์ ขาดทักษะ และมีมารยาททางธุรกิจที่ไม่ดีนัก
โดยผู้บริหารหันไปจ้างฟรีแลนซ์ พนักงานที่เกษียณไปแล้วทดแทน หรือปล่อยให้ตำแหน่งว่างดังนั้นเด็กจบใหม่จึงควรเตรียมความพร้อมของตนเอง ทั้งด้านทักษะและทัศนคติ ขณะที่ภาคการศึกษาต้องเร่งปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดด้วย