วันอังคาร, กันยายน 17, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightครม.เคาะขยายระยะเวลาสินเชื่อช่วย SMEs ถึง 30 ธ.ค. 2564
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ครม.เคาะขยายระยะเวลาสินเชื่อช่วย SMEs ถึง 30 ธ.ค. 2564

ครม.ขยายระยะเวลาสินเชื่อช่วยผู้ประกอบการรายย่อยขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อ ปรับปรุง “Soft Loan ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย” ขยายโครงการ “มีที่ มีเงิน”  ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้และป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64  นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ที่ประชุมครม.ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่  ได้แก่ ขยายระยะเวลาการดำเนินการโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจาการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ปรับปรุงการดำเนินโครงการ Soft Loan ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ  SMEs  มีที่ มีเงิน สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว  รายละเอียด ดังนี้

1. โครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) โดยจะขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อจากเดิมวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ออกไปเป็นวันที่ 30 ธันวาคม 2564

2. ปรับปรุงโครงการ Soft Loan ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย โดยธนาคารออมสิน ได้แก่ (1) ขยายระยะเวลากู้ จากเดิมไม่เกิน 5 ปี เป็นไม่เกิน 7 ปี    (2) ขยายระยะเวลาปลอดชำระเงินต้น จากเดิมสูงสุดไม่เกิน 1 ปี เป็นสูงสุดไม่เกิน 2 ปี     (3) ขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อจากเดิมวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ออกไปเป็นวันที่ 30 ธันวาคม 2564

3. ปรับปรุงโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ SMEs “มีที่ มีเงิน สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว” โดยธนาคารออมสิน ได้แก่  (1) ขยายกลุ่มเป้าหมายโครงการ ฯ ครอบคลุมผู้ประกอบการ SMEs ในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ เช่น ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจการเดินทางและขนส่ง ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจสปาและนวดแผนไทย ธุรกิจการเดินทางและขนส่ง ธุรกิจโรงเรียนเอกชน เป็นต้น หรือผู้ประกอบการในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ตามที่ธนาคารออมสินเห็นสมควร

(2) ปรับปรุงหลักเกณฑ์วงเงินสินเชื่อต่อรายกรณีผู้กู้เป็นนิติบุคคล จากเดิมพิจารณารายได้รวมของงบการเงินปีล่าสุด (รอบบัญชีปี 2562) เป็นพิจารณารายได้รวมของงบการเงินปีล่าสุด (รอบบัญชีปี 2562 หรือปี 2563 แล้วแต่กรณีใดสูงกว่า) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของผู้ประกอบการ SMEs (3) ปรับปรุงการพิจารณาหลักประกันการกู้เงินจากเดิมไม่รับหลักประกันที่ไม่มีสภาพคล่อง เช่น ที่ดินที่ไม่มีทางเข้า-ออก ที่ดินที่มีบ่อน้ำ หรือถูกขุดหน้าดิน ที่ดินใต้แนวเสาไฟฟ้าแรงสูง ที่ดินที่อยู่ในเขตป่าสงวน เป็นต้น เป็นไม่รับหลักประกันที่ไม่มีสภาพคล่องตามที่ธนาคารออกสินกำหนด เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (4) ขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อจากเดิมวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ออกไปเป็นวันที่ 30 ธันวาคม 2564

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs ได้รับผลกระทบจากการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่  ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ โดยไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังช่วยป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img