วันอังคาร, พฤศจิกายน 26, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight''บิ๊กตู่''ย้ำดึงนักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนใน EEC เน้นกลุ่ม EU
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”บิ๊กตู่”ย้ำดึงนักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนใน EEC เน้นกลุ่ม EU

นายกฯ ชื่นชมความก้าวหน้าของ EEC ย้ำให้ดึงนักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนใน EEC ให้มากขึ้น เน้นไปในกลุ่ม EU และประเทศที่มีศักยภาพ

เมื่อวันที่ 4 ต.ค.64 เวลา 13.30 น. ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือบอร์ด EEC ครั้งที่ 3/2564 (ผ่านระบบ Video Conference) โดยที่ประชุมมีการพิจารณาประเด็นที่สำคัญ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในพื้นที่ EEC การพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ EEC การพัฒนาพื้นที่และชุมชน เป็นต้น นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในพื้นที่ EEC โดยเน้นดึงดูดกลุ่ม EU และประเทศที่มีศักยภาพให้มาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะใน 7 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายรวมทั้งการศึกษา การวิจัยและการพัฒนาต่าง ๆ พร้อมเร่งรัดดำเนินการเรื่องที่ยังติดค้างให้อยู่ให้สำเร็จภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ เพื่อพลิกโฉมประเทศไทย เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์การยกระดับเศรษฐกิจของต่างประเทศในปี 25665 ทั้งนี้ รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุน โยยังเร่งรัดฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายและยืนยันวัคซีนมีเพียงพอสำหรับฉีดให้กับประชาชนทุกกลุ่ม รวมทั้งในกลุ่มแรงงานซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ


นายกรัฐมนตรียังเน้นการใช้ศักยภาพทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยกรทางพืชเกษตรที่ไทยมีอยู่จำนวนมาก ให้มอบ อว. กับหน่วยงานวิจัย ช่วยวิจัยพัฒนาแปรรูปพืชผลทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าพืชเกษตรให้สูงขึ้น แก้ปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดและตกต่ำรวมทั้งให้ขยายโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (EEC) ไปสู่ทางด้านธุรกิจประมง ทั้งการจัดห้องเย็นให้เพียงพอและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของสิ้นค้าต่าง ๆ ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการรับทราบและเห็นชอบวาระสำคัญ อาทิ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F ที่ประชุมเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนท่ีผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด ของโครงการพัฒนา ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะท่ี 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาการเกษตรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (พ.ศ. 2566 – 2570)

ในส่วน โครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (EEC) ที่ประชุมเห็นชอบให้ สกพอ.ศึกษาการจดตั้งบริษัทเพื่อบริหารโครงการ EFC เพื่อขับเคลื่อนโครงการ ฯ ตามเป้าหมายที่กำหนด และเห็นชอบ แผนพัฒนาเมืองพัทยาตามแนวทาง NEO PATTAYA เพื่อขยายผลสู่การจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษรองรับอุตสาหกรรมการท่องเท่ียว กลุ่มรายได้ดีและการท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ และเห็นชอบ ให้ “โครงการการยกระดับโรงพยาบาลปลวกแดง2 ฯ เป็น 1 ในโครงการ EEC Project List มอบหมายให้ สธ.และ สกพอ.ร่วมกันเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการดำเนินโครงการ

ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรียังชื่นชมม. บูรพาพัฒนา ที่มีศูนย์การผลิตยาจากสารสกัดพืชสมุนไพร วิเคราะห์ยาสมุนไพร และผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยขอให้มีการวิจัยพัฒนาแปรรูปพืชสมุนไพรให้มากขึ้น กำหนดเป้าหมายและโจทน์ให้ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารสกัดจากพืชสมุนไพรที่มีมูลค่าสูงเช่นเดียวกับที่ต่างประเทศดำเนินการ

นายกรัฐมนตรี ย้ำทุกคนดูแลสุขภาพให้ปลอดภัยในช่วงนี้ซึ่งอยู่ในสถานการณ์การกแพร่ระบาด โควิด-19 และช่วยกันดูแลประชาชน ทำงานทุกอย่างด้วยความระมัดระวังรอบคอบเพราะหลายเรื่องเป็นที่จับตามองและสังคมให้ความสนใจ รวมถึงโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F ให้รับข้อสังเกตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบการดำเนินการ และให้ดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎระเบียบและข้อกฏหมายที่มีอยู่อย่างถูกต้อง

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img