วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“นกแอร์” มั่นใจปี 65 ผลงานกลับมาเป็นบวก พร้อมเปิดบินเบตง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“นกแอร์” มั่นใจปี 65 ผลงานกลับมาเป็นบวก พร้อมเปิดบินเบตง

“นกแอร์” หวังปี 65 ผลงานกลับมาเป็นบวก คาด Cabin Factor เฉลี่ย 75% ผู้โดยสาร 7-8 ล้านคน ลุ้นจีนเปิดประเทศปีหน้าหนุนการเติบโต ทยอยเปิดบินระหว่างประเทศ พร้อมเล็งบินเชื่อมโยงระหว่างภาค ส่วนปี 64 คาด Cabin Factor อยู่ในระดับ 68% ลุ้นบินเบตง ม.ค. 65

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2565 ของนกแอร์จะกลับมาเป็นบวก โดยตั้งเป้าอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ในระดับ 75% จำนวนผู้โดยสารคาดว่าจะกลับมาอยู่ในระดับ 7-8 ล้านคน เนื่องจากเชื่อว่าหลายประเทศจะเริ่มเปิดประเทศกัน หลังจากที่ได้มีการฉีดวัคซีนกันมากขึ้นจะส่งผลให้อุตสาหกรรมการบินกลับมาคึกคัก ซึ่ง นกแอร์ก็เตรียมความพร้อมที่จะเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศไว้แล้ว โดยในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 ก็จะกลับมาทำการบินไปเวียดนาม

พร้อมกันนี้ก็จะกลับมาทำการบินไปยังประเทศญี่ปุ่น อินเดีย ในช่วงเดือนเมษายน 2565 และเตรียมความพร้อมทำการบินเข้าประเทศจีน ซึ่งจีนได้ประกาศว่าจะทยอยเปิดประเทศในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 หากจีนเปิดประเทศก็จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของนกแอร์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากประเทศจีนเป็นตลาดใหญ่ที่มีการเดินทางจำนวนมาก

นอกจากนี้แล้ว นกแอร์ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการลดต้นทุนของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงแผนการใช้เครื่องบินให้เหมาะสมกับเส้นทางบิน เพื่อให้การใช้ฝูงบินเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยลดต้นทุน โดยเฉพาะต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ต้นทุนการซ่อมบำรุง ขณะเดียวกันก็ได้มีการปรับโครงสร้างสัญญาเช่าเครื่องบิน เช่น การเช่ารายเดือนเปลี่ยนเป็นเช่าตามจำนวนชั่วโมงที่ทำการบิน ซึ่งช่วยให้ นกแอร์สามารถลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2564 ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเร่งฉีดวัคซีน และได้เปิดประเทศไปเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2564  ซึ่ง นกแอร์ก็ได้ทยอยเพิ่มความถี่ในการบินในเส้นทางบินภายในประเทศทั้ง 26 เส้นทางบินส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน Cabin Factor สูงขึ้นอยู่ในระดับ 85% โดยคาดว่าในปี 2564 จะเฉลี่ยในระดับ 68% และคาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารราว 4 ล้านคน

พร้อมกับมีแผนเปิดเส้นทางบินระหว่างเชื่อมโยงระหว่างภาค เช่น เชียงใหม่ – ภูเก็ต เชียงใหม่ – สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ – นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ – ตรัง เชียงใหม่ – หาดใหญ่ นครราชสีมา – นครศรีธรรมราช นครราชสีมา – หาดใหญ่ นครราชสีมา – สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา – หาดใหญ่ นครราชสีมา – เชียงใหม่ และอุบลราชธานี – หาดใหญ่

ท่าอากาศยานเบตง

ส่วนเส้นทาง ดอนเมือง – เบตง หาดใหญ่ – เบตง อยู่ระหว่างการรอความชัดเจนจากภาครัฐเรื่องการรับประกันที่นั่ง 75% และในระยะแรกรัฐจะต้องยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมต่างๆ อาทิ ค่าภาษีสนามบิน ค่าบริการขึ้นลงอากาศยาน และค่าเช่าเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสาร เป็นต้น อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่าจะต้องเปิดสนามบินให้ได้ในเดือนมกราคม 2565 เพื่อให้สอดรับกับมาตรการเปิดประเทศของมาเลเซียในวันที่ 1 มกราคม 2565 รวมทั้งรองรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ และเร่งสร้างความมั่นคงให้กับเศรษกิจชายแดนใต้

ส่วนความคืบหน้าแผนการเช่าเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เพิ่มอีกจำนวน 6 ลำนั้นในขณะนี้ยังไม่ได้อนุญาตจากทางกระทรวงคมนาคม และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ซึ่งได้ยื่นเรื่องไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด – 19 จากปัจจุบันมีเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 อยู่ 14 ลำ และมีเครื่องบินรุ่น Q400 NextGen จำนวน 7 ลำ เป็นเครื่องบินแบบใบพัด โดยในจำนวนนี้จะลดเหลือ 5 ลำ ดังนั้นจะส่งผลให้ในปี 2565 นกแอร์มีฝูงบินรวมทั้งสิ้น 25 ลำ เพียงพอต่อแผนการบินในปี 2565

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img