“โฆษกรัฐบาล” สวนกลับ “หน.เพื่อไทย” อย่าใช้ชาวนาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อ “ดิสเครดิตรัฐบาล” แจงทุกมาตรการอยู่บนความเป็นไปได้ของงบประมาณ-ไม่บิดเบือนกลไกตลาด เผย 9 ธ.ค.ชาวนาทั่วประเทศ เตรียมรับเงินโอนส่วนต่างงวด 3-7 เหน็บแสบอย่าโลกสวย เหมือน “อดีตนายกฯ” เผ่นหนีไปต่างปท. ปล่อย “อดีตรมต.” ต้องติดคุก
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า “ชาวนาไทยทุกข์ยากลำบาก แต่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจ พรรคเพื่อไทยจะฟื้นศักดิ์ศรีให้ชาวนาไทยกลับมายืนตรงมองฟ้าอย่างองอาจอีกครั้ง” ว่า ขอให้นพ.ชลน่านยึดข้อเท็จจริง อย่าใช้ชาวนาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ดูแลคนไทยทุกอาชีพ โดยเฉพาะเกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ล่าสุด ธกส. พร้อมโอนเงินช่วยเหลือพี่น้องชาวนาทั้ง 2 โครงการ ทั้งประกันรายได้ข้าว ปี 64/65 งวดที่ 3-7 เริ่มวันที่ 9 ธ.ค.นี้ มูลค่า 6.4 หมื่นล้านบาท และอุดหนุนค่าปรับปรุงพันธุ์ข้าวโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้
“หากฝ่ายค้านติดตามผลงานรัฐบาลด้วยใจที่ไม่อคติ ก็จะทราบว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ดูแลแค่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเท่านั้น แต่ยังมีการช่วยเหลือพี่น้องพืชเกษตรชนิดอื่น ๆ รวมทั้งมาตรการประกันรายได้ให้กับเกษตรในพืชอีก 4 ชนิดทั้งปาล์ม มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งในรอบ 3 ปีนี้ (2562-2564) คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบงบประมาณอุดหนุนประกันรายได้ จ่ายส่วนต่างราคาสินค้าพืชเกษตร 5 ชนิด รวมยอดไปแล้วกว่า 276,193 ล้านบาท”โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า โครงการประกันรายได้ไม่ส่งเสริมการลดต้นทุน ไม่ส่งเสริมการผลิต และไม่ส่งเสริมการตลาด เป็นเพียงการชดเชยส่วนต่าง ซึ่งแตกต่างกับโครงการรับจำนำข้าว ที่เป็นการเข้าจัดการกลไกราคาตลาด ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ชาวนาขายข้าวได้มากขึ้นนั้น ทุกมาตรการของรัฐบาลอยู่บนความเป็นไปได้ของงบประมาณ ไม่บิดเบือนกลไกตลาด เป้าหมายสำคัญคือ พัฒนาศักยภาพชาวนา ลดต้นทุนการปลูกข้าว ส่งเสริมความหลากหลายพันธุ์ข้าว สร้างความเข้มแข็งให้ข้าวไทยกลับมามีความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ บูรณาการมาตรการช่วยเหลือชาวนาครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิตข้าวทุกขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ส่วนหลังการเพาะปลูกยังมีโครงการชะลอการขายข้าว หรือจำนำยุ้งฉาง โครงการการลดดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการอย่างโรงสีเก็บข้าวไว้ในสต็อก รวมไปถึงการส่งเสริมองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
“นายกฯอยากเห็นชาวนาไทยสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวด้วยการทำการเกษตรที่ยั่งยืน รวมทั้งต้องการยกย่องให้ชาวนาไทย มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพื่อไม่ให้ชาวนา และข้าว ถูกนักการเมืองเกาะกิน นำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง อย่างไรก็ตาม การจะให้ข้อมูลอะไรนั้นต้องครบและรอบด้านด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยควรจะบอกกับประชาชนด้วยว่า ผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าวนั้น ได้สร้างความเสียให้กับประเทศไว้อย่างไรด้วย ถึงขนาดที่อดีตนายกฯยังต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ แล้วใจจืดใจดำปล่อยให้อดีตรัฐมนตรีต้องติดคุกอยู่คนเดียว ไม่ใช่เอาแต่สร้างโลกสวยสร้างความสับสนให้ประชาชนไปวันๆ”นายธนกร กล่าว