แบงก์กรุงศรีฯคาดเงินบาทช่วงที่เหลือของสัปดาห์เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มแข็งค่าต่อหลังเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาพักฐานในหุ้น-พันธบัตรกว่า1.93 แสนล้าน
ธนาคารกรุงศรีอยุธยาระบุว่า เงินบาทในช่วงที่เหลือของสัปดาห์คาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยแนวโน้มมีโอกาสแข็งค่าต่อเป็นผลมาจากต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นไทยและพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบว่าต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 61,683 ล้านบาท และพันธบัตรซื้อสุทธิ 131,339 ล้านบาท โดยเฉพาะในเดือนก.พ. (1ก.พ.-15ก.พ.) ต่างชาติเข้าซื้อหุ้นไทยสุทธิ42,036 ล้านบาท พันธบัตรซื้อสุทธิ 47,593 ล้านบาท
สำหรับดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตพุ่งขึ้น 9.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.1%หลังจากดีดตัวขึ้น 9.8% ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้หากเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ดีดตัวขึ้น 1.0% ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ0.5% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเงินเฟ้อที่สูงจะเป็นปัจจัยกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย และส่งผลให้เงินบาทกลับมาแข็งค่านอกจากนี้ติดตามผลรายงานการประชุมเฟดรอบ ม.ค. ในคืนนี้
สำหรับการเคลื่อนไหวสกุลภูมิภาค ตั้งแต่ ม.ค.- 15 ก.พ.ที่ผ่านมาพบว่าบาท-ไทยแข็งค่าสุด 3.3%รองลงมาคือดอง-เวียดนาม 0.34%ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.20%หยวน -จีน 0.13%ยกเว้น รูปี-อินเดียอ่อนสุด 1.52% วอน-เกาหลีใต้ 0.92 % เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.76%ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.75% ริงกิต-มาเลเซีย 0.53 % และรูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.35 % อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพราะตลาดมีความผันผวน