“ปตท.” โชว์กำไรปี 64 ทะลุ 10.8 แสนล้าน ประกาศจ่ายปันผล 0.80 บาทต่อหุ้น พร้อมเตรียมแผนลงทุน 5 ปี 9.4 แสนล้านบาท เน้นพลังงานในอนาคต-ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ในปี 2564 มีกำไร 108,363.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีกำไร 37,765.81 ล้านบาท โดยในปี 2564 มี EBITDA จำนวน 427,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 202,284 ล้านบาท หรือ 89.6% จากปี 2563 โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก Accounting GRM ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากขาดทุน 0.4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในปี 2563 เป็นกำไร 5.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในปี 2564 รวมถึงส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์
นอกจากนี้ในปี 2564 มีกำไรสต๊อกน้ำมันของกลุ่ม ปตท. ประมาณ 46,000 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปี 2563 มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันประมาณ 19,000 ล้านบาท
ในส่วนของผลการดำเนินงานของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหลักจากปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ และธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ ตามราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น รวมถึงธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจาก ส่วนต่างราคาซื้อ-ขายผลิตภัณฑ์น้ำมันดิบและคอนเดนเสทในประเทศที่เพิ่มขึ้น
สำหรับผลดำเนินงานในไตรมาส 4/64 มีกำไรสุทธิจำนวน 27,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,397 ล้านบาท หรือมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่หากเทียบกับไตรมาส 3/64 เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 3,891 ล้านบาท หรือ 16.5%
สำหรับทิศทาทางการลงทุนระยะยาว เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง และเร่งการลงทุนในกลุ่มพลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจใหม่นอกเหนือจากพลังงาน เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่อย่างยั่งยืนใน 3 ด้าน ประกอบด้วย
-New growth : เป้าหมายการสร้างกำไรจากธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจใหม่นอกเหนือจากพลังงานให้มากกว่า 30% ภายในปี 2573
-Business growth : เป้าหมายของธุรกิจ LNG มีขนาด Portfolio 9 ล้านตันต่อปี ธุรกิจไฟฟ้า 8 กิกะวัตต์ และธุรกิจพลังงานหมุนเวียน 12 กิกะวัตต์ ภายในปี 2573
-Clean growth : เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกลุ่ม ปตท. ภายในปี 2573 โดยลดลง 15% เทียบกับปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2563
อย่างไรก็ตาม กลุ่มปตท. ได้จัดเตรียมแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2565-2569) วงเงินรวมประมาณ 9.4 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจตามกรอบวิสัยทัศน์ใหม่ และร่วมผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ประกอบด้วยการลงทุนในพลังงานอนาคต อาทิ พลังงานหมุนเวียน ระบบการกักเก็บพลังงาน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ศึกษาการใช้พลังงานจากไฮโดรเจน และลงทุนนอกธุรกิจพลังงาน อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต พร้อมต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมีสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ปรับธุรกิจน้ำมันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนการดำเนินการจำหน่ายการลงทุนในธุรกิจที่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจถ่านหิน เป็นต้น
นอกจากนี้ณะกรรมการบริษัท ปตท. ยังได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท จำนวน 28,562.99 ล้านหุ้น รวมเป็นจำนวน 57,126 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท ไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ต.ค.2564
โดยจะมีการจ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งหลังของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.80 บาทกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 3 มี.ค.2565และวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 4 มี.ค.2565 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เม.ย.2565