วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightโพลชี้ปชช.เข้าใจ-รับรู้“วิกฤตพลังงาน” แต่ยังพอใจ“รัฐบาล”ในการแก้ปัญหา
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

โพลชี้ปชช.เข้าใจ-รับรู้“วิกฤตพลังงาน” แต่ยังพอใจ“รัฐบาล”ในการแก้ปัญหา

“ซูเปอร์โพล” สะท้อนชัด ปชช.เข้าใจและรับรู้ถึงวิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนในชีวิตที่มีค่าครองชีพสูงขึ้น แต่ยังพอใจรัฐบาลถึงความพยายามในการแก้ปัญหา ทั้งต้องการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องช่วยลดภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.65 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซู เปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “เสียงของประชาชนต่อวิกฤตน้ำมันแพง” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดย ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,159 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 6-12 มี.ค.65 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.8 ระบุปัญหากลไกการตลาด มีผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก ในขณะที่ร้อยละ 95.0 ระบุทุกคนต้องการใช้น้ำมันปริมาณที่มากขึ้น หลังผ่านวิกฤตโควิดและเป็นช่วงฟื้นตัวเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ และร้อยละ 89.8 ระบุปัญหาจากสงครามระหว่างประเทศยูเครนกับรัสเซีย ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลก ทำให้น้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้น

ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.9 ระบุการปรับตัวขึ้นของน้ำมัน ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้น เช่น อาหาร สินค้า ค่าขนส่งและการเดินทาง เป็นต้น และร้อยละ 94.9 ระบุการปรับตัวขึ้นของน้ำมัน มีผลให้ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.9 ระบุพอใจการส่งเสริมจากรัฐบาล นำพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด มาใช้ทั้งในภาคขนส่ง ภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนมากขึ้น ร้อยละ 94.8 ระบุพอใจความพยายามในการออกกฎหมาย เพื่อรองรับอุตสาหกรรมและรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ร้อยละ 94.6 ระบุสนับสนุนรัฐบาลให้จัดหาแหล่งน้ำมันอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ขยายโอกาสความสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น ร้อยละ 94.5 ระบุสนับสนุนให้ภาครัฐเร่งออกมาตรการสนับสนุนและทางภาษีที่เป็นรูปธรรม รองรับการใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น และร้อยละ 94.2 ระบุพอใจต่อภาครัฐมีการสนับสนุนพลังงานทางเลือก เช่น รถไฟฟ้า เรือไฟฟ้า เป็นพลังงานสะอาดรองรับการใช้น้ำมัน

อย่างไรก็ตาม ความต้องการของประชาชน ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.2 ระบุควรมีการลดค่าโดยสารสาธารณะทุกประเภทในช่วงวิกฤตน้ำมันแพง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในช่วงนี้ ร้อยละ 95.8 ระบุควรมีมาตรการระยะยาวในการแก้ปัญหาด้านพลังงานน้ำมันอย่างจริงจัง เร่งด่วนที่เป็นรูปธรรม และร้อยละ 93.3 ระบุการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทุกคนต้องร่วมกันประหยัดพลังงานน้ำมัน ใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็น หันมาใช้พลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ เข้าใจและรับรู้ได้ถึงปัญหาวิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้นปัจจุบัน จากปัญหาการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโลกหลังโควิด-19 และสงครามในยูเครน มีผลต่อกลไกการตลาดโลก ซึ่งส่งผลกระทบตรงต่อปัญหาความเดือดร้อนในชีวิตและค่าครองชีพที่สูงขึ้นและยังชี้ให้เห็นความเข้าใจและความพอใจรัฐบาล ถึงความพยายามในการแก้ปัญหาน้ำมัน ทั้งการตรึงราคาน้ำมัน การบริหารจัดการกองทุน น้ำมันและการจัดหาแหล่งพลังงานทดแทน เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อน ด้านค่าครองชีพ ขณะเดียวกัน ก็ต้องการให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม และกระทรวงพาณิชย์ เข้ามาใส่ใจ ช่วยดูแลลดภาระค่าครองชีพ ที่เพิ่มใกล้ชิดขึ้น ทั้งค่ารถโดยสารสาธารณะ การตรึงราคาสินค้า ค่าขนส่ง ก๊าซหุงต้ม รวมทั้งลงพื้นที่คุมและตรวจสอบราคาสินค้า

“อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตยังเป็นโอกาส ถึงการทำความเข้าใจกับ ประชาชนและการรณรงค์ร่วมประหยัดพลังงานครั้งใหญ่ ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาลดความเดือดร้อนเฉพาะหน้า ที่ทำได้และส่งผลทันที และหากรัฐบาลจริงจังเร่งขับเคลื่อนโอกาสและส่งเสริม ให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนได้เข้าถึงและใช้พลังงานสะอาดเป็นพลังงานทางเลือกต่อภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนให้เป็นรูปธรรมรายวันโดยเร็ว โดยหน่วยราชการร่วมกันนำร่อง ถือว่ายังไม่สายเกินไปที่เราจะร่วมกันพลิกเปลี่ยน ประเทศครั้งใหญ่ด้านพลังงาน” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img