ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 15.75 จุดสอดรับตลาดหุ้นภูมิภาค-ตลาดยุโรป หลังจีนล็อกดาวน์ประเทศสกัดโควิดจับตาประชุมเฟด 16 มี.ค.ขึ้นดอกเบี้ย ประเมินแนวรับพรุ่งนี้ที่ 1,630 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ1,644.36 จุด ลบ 15.79 จุด หรือ 0.95 % โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,663.32 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,639.90 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82,506.52 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นยุโรป แรงกดดันมาจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 6% ลงมาหลุด 100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
ขณะเดียวกันยังมีความกังวลสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศจีน หลังกลับมาล็อกดาวน์เซิ่นเจิ้นและล็อกดาวน์เพิ่มอีก 2-3 เมือง ทำให้ตลาดกังวลว่าอาจผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจในเอเชีย และการบริโภคอาจชะลอตัวได้ ซึ่งมีผลต่อดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์ และกิจกรรมการค้าขายทั้งการนำเข้าและส่งออก รวมทั้งค่าระวางเรือ ซึ่งในวันนี้จะเห็นว่ากลุ่มเดินเรือ และกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีแรงเทขายออกมามาก
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ ติดตามการประชุมประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนวันที่ 15 มี.ค.-16 มี.ค.ว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีตามที่ตลาดคาดไว้หรือไม่ และแนวโน้มการปรับในครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร รวมถึงท่าทีการลดขนาดงบดุล นอกจากนั้นยังต้องติตดามสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในจีน เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียประเมินแนวรับ 1,630 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,988.26 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,675.21 ล้านบาท ปิดที่ 145.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,324.24 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,044.34 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,810.54 ล้านบาท ปิดที่ 10.80 บาท ลดลง 0.40 บาท