ปัจจัยลบต่างประเทศกดตลาดหุ้นไทย โบรกฯแนะ“ขายทำกำไร-ปรับพอร์ต”

โบรกฯมองหุ้นไทยอัพไซ์ดจำกัด เผชิญความผันผวนจากสารพัดปัจจัยลบรุมเร้า แนะขายทำกำไรกระชับพอร์ต ถือเงินสดเพิ่มในช่วงดัชนีดีดตัวขึ้น ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวสัปดาห์หน้าที่ 1,670-1,700 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่าตลาดหุ้นไทยอัพไซด์จำกัดและเผชิญแรงผันผวน หลังจากประเทศพัฒนาแล้วในหลายประเทศเริ่มหันมาใช้นโยบายการเงิน
ที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อลดแรงกดดันเงินเฟ้อ ขณะที่ราคาน้ำมันแม้ว่าจะย่อตัวลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลแต่เงินเฟ้อก็ยังอยู่ระดับสูง

สำหรับผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์นั้น ตลาดหุ้นตอบรับข่าวดังกล่าวมาพอสมควรแล้ว และเฟดเตรียมลดคิวที เพื่อดึงสภาพคล่องออกจากตลาด
ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องระวังความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นถือเป็นจุดเปลี่ยนของฟันด์โฟลว์

โดยปัจจัยสัปดาห์หน้าที่ต้องติดตามคือผลเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนการประชุมขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ที่กรุงบรัสเซลส์ในวันที่ 24 มี.ค.เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน และประชุมคณะรัฐมนตรีความมั่นคงยุโรป

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. ดัชนี PMI
เดือนมี.ค.(เบื้องต้น) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนมี.ค. ของจีน รวมถึงดัชนี PMI เดือนมี.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนและญี่ปุ่น
สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ตัวเลขส่งออกเดือนก.พ. ของไทย

ด้านกลยุทธ์การลงทุนช่วงที่ตลาดปรับตัวขึ้นให้ขายทำกำไรกระชับพอร์ตเน้นถือเงินสดเพิ่มเพราะแนวโน้มความผันผวนของตลาดจะมีมากขึ้นแต่มากน้อยแค่ไหนขึ้นกับสถานการณ์ขัดแย้งรัสเซียยูเครนจะยืดเยื้อหรือจบเร็ว แนะหุ้นที่อิงเศรษฐกิจในประเทศและได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นประเมินกรอบการเคลื่อนไหวสัปดาห์หน้าที่ 1,670-1,700 จุด