PTG จับมือ “ยูนิท” ทุ่มงบ 300 ล้านบาท ตั้งบริษัทแมกซ์บิทฯ ลุยธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ดึงฐานลูกค้าบัตรแม็กซ์การ์ดทำตลาด ดันรายได้ที่ไม่ใช่น้ำมันเพิ่ม
นายปกเขตร รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG และ บริษัท ยูนิท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและการร่วมลงทุน ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีทางการเงิน อย่างสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาระบบบล็อกเชน พร้อมจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด เปิดบริการธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) โดยพัฒแพลตฟอร์มชื่อว่า “MAXBIT” โดยมีลักษณะจะคล้ายกับ คอยน์เบส ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลจากสหรัฐ
“สินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตสูงเพิ่มขึ้น บริษัทฯมีแนวคิดที่จะลงไปแข่งขันในตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งจะอาศัยฐานข้อมูลจากบัตรแม็กซ์ การ์ด (Max Card) ที่มีสมาชิกมากกว่า 17 ล้านคน ซึ่ง 7.29 ล้านคน เป็นกลุ่มอายุระหว่าง 18-40 ปี ใกล้เคียงกับกลุ่มอายุที่นิยมลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโทเคอร์เรนซี” นายปกเขตร กล่าว
สำหรับการร่วมลงทุนในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 ส่วนเป็นคนไทยทั้งหมด โดย บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG มีสัดส่วนการลงทุนที่ 35%, บริษัท ยูนิท จำกัด ลงทุน 35% ส่วนที่เหลืออีก 30% จะเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย 2 ราย โดยเงินลงทุนเริ่มแรกจะอยู่ที่ 300 ล้านบาท เพื่อขอใบอนุญาตประกอบการเป็นตัวแทนการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย และเพื่อใช้พัฒนาระบบและแอพพิเคชั่นแพลตฟอร์มใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทำการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทฯได้รับไลเซนส์มาแล้วทั้งหมด 4 ใบ จากทางธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส หรือ Max Card ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ อี มันนี่ (E-Money) และ กระเป๋าเงินดิจิทัล (E-Wallet) โดยเฉพาะ
ส่วนการยื่นเรื่องขอใบอนุญาตประกอบการเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker)ในประเทศไทย กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการปรึกษาหารือและเตรียมเอกสารเพื่อรอยื่นขอใบอนุญาตกับทาง ก.ล.ต. ด้านแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นที่ทางผู้ใช้งานจะใช้เทรดนั้น สำหรับตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯได้พัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากได้ใบอนุญาตจากก.ล.ต. จะสามารถดำเนินกิจกรรมซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯจะมีความแตกต่างจากการแลกเปลี่ยนเงินของสินทรัพย์ดิจิทัล
สำหรับการเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จะทำให้บริษัทฯสามารถจัดซื้อ จัดหา สินทรัพย์ดิจิทัลที่ลูกค้าอยากได้จากทุกหนแห่งมาเสนอราคาให้ลูกค้าได้ โดยจะมีการเปรียบเทียบราคาสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับลูกค้าผ่านแอพพิเคชั่น MAXBIT พร้อมนำเสนอราคาที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ณ ตอนที่ลูกค้าซื้อกับแพลตฟอร์มบริษัทฯ
“การเข้ามาลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในครั้งนี้ ทางกลุ่ม PTG มองการเติบโตในตลาดไม่ต่ำกว่าอันดับ 2 แน่นอน และจะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอนาคตในที่สุด ซึ่งคงต้องจับตามองกันต่อไป สุดท้ายแล้วหากเราประสบความสำเร็จ สิ่งที่เราพัฒนาขึ้นมานั้น เชื่อว่าจะเปลี่ยนวงการสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยได้จริงๆ รวมถึงจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กลุ่ม PTG จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากธุรกิจ Non-oil อย่างยั่งยืนต่อไป”นายปกเขตร ระบุ