“รองหัวหน้าพรรคกล้า”แนะผู้ส่งออกสินค้า ในภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน .ผู้ส่งออกสินค้าไทยต้องเร่งหาตลาดสินค้าไทยเพิ่มเติมจากที่เป็นอยู่ให้ได้
วันที่ 6 เม.ย.65 นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ในภาวะะสงครามรัสเซีย-ยูเครนแบบนี้..ผู้ส่งออกสินค้าไทยต้องเร่งปรับตัว สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทยว่า สถานการณ์แบบนี้ ผู้ส่งออกสินค้าไทยต้องเร่งปรับตัว ยิ่งความขัดแย้งเป็นไปในแบบบีบให้เลือกข้างยิ่งต้องระมัดระวังให้ดี เพราะถ้าเลือกข้างใดข้างหนึ่ง นั่นอาจหมายถึงสูญเสียตลาดอีกข้างหนึ่งทันที สงครามที่สู้รบกันจริงมี 2 ประเทศ (ที่เปิดเผย) แต่สงครามทางเศรษฐกิจนั้น อาจพูดได้ว่า ใกล้เคียงภาวะสงครามโลกทางเศรษฐกิจแล้ว เพราะเริ่มมีการจับขั้วประเทศ กันอย่างชัดเจน ระหว่างอเมริกายุโรปขั้วหนึ่ง กับรัสเซีย จีน อินเดีย กลุ่มแอฟริกาใต้และตะวันออกกลาง อีกขั้วหนึ่ง
ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มากของไทยทั้ง 2 ข้าง ประเทศเล็กๆอย่างไทย จำเป็นที่จะต้องอิงพลังจากกลุ่มชาติอาเซียนในการวางท่าทีและแสดงความเห็นในภาวะสงครามแบ่งข้าง เพราะถ้าเราเข้าข้างใดข้างหนึ่ง ความสูญเสียทางเศรษฐกิจ อาจมีผลเสียตามมาจนเศรษฐกิจประเทศเสียหายหนัก การอิงมติของกลุ่มประเทศอาเซียน ดูจะเป็นท่าทีที่ถูกต้องปลอดภัยและเกิดผลเสียน้อยสุดในภาวะสงครามที่บีบให้เลือกข้าง
รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ในฐานะผู้ส่งออกสินค้าไทย จำเป็นต้องมองหาโอกาสในภาวะวิกฤติให้ออก และจำเป็นต้องอาศัยผู้นำที่มีความรอบรู้และเท่าทันเกมการเมืองในเวทีระดับโลก บุ่มบ่ามเลือกข้างโดยไม่สนใจ ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจัยทางยุทธศาสตร์ภูมิศาสตร์ อาจพาคนไทยทั้งประเทศตกที่นั่งลำบากได้ สิ่งที่ผู้ส่งออกควรทำคือ เร่งหาตลาดสินค้าไทยเพิ่มเติมจากที่เป็นอยู่ให้ได้ เพราะความเสี่ยงที่จะถูกมาตรการกีดกันทางการค้า จากกลุ่มประเทศมหาอำนาจคู่ขัดแย้งมีสูงมาก การค้าขายข้อห้ามที่สำคัญคือห้ามมีศัตรู ซึ่งในภาวะสงครามทำได้ยากมาก ดังนั้นเราต้องเร่งหาประเทศคู่ค้า รายใหม่ๆ ตลาดใหม่ทดแทนและป้องกันความเสี่ยงให้เร็วที่สุด แล้วอันที่จริง จากมาตรการแบนกันไปมาของประเทศมหาอำนาจ ยังพอมีโอกาสทางการค้าให้เราฉกฉวยได้ เพราะเราเป็นประเทศเกษตรกรรมและมีอุตสาหกรรมอาหารที่แข็งแรงในระดับหนึ่ง
“ประเทศไหนแบนสินค้าอาหารของใคร เราต้องมองแล้วครับว่า เราเสนอตัวเรื่องสินค้าอาหารทดแทนให้กับประเทศนั้นๆได้หรือไม่ และต้องปรับปรุงอะไรเพื่อให้เราขายผลิตภัณฑ์อาหารไทยได้กับทุกฝ่าย กระทรวงพาณิชย์ช่วงนี้ต้องโชว์ฝีมือแล้วครับ ไม่อย่างนั้น โอกาสของสินค้าไทยอาหารไทย ที่ซ่อนอยู่ในวิกฤติสงคราม ก็จะสูญหายไป เพราะรัฐบาลของเรา มองไม่ออก ทำไม่เป็น การสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการในภาวะวิกฤติต้องการรัฐบาลที่มือถึงและเก่งเศรษฐกิจมาก ๆ ถึงจะไปรอด”