“จุรินทร์”สั่งกรมการค้าภายในประสานห้างค้าส่ง-ค้าปลีก เร่งนำเข้า “คาร์ซีท” ราคาถูกมาจำหน่ายให้ประชาชน พร้อมสั่งห้ามขึ้นราคาสินค้า ชี้พบเอาเปรียบลูกค้าลงโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะบังคับใช้ คาร์ซีท โดยกำหนดว่าเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ จะต้องมีคาร์ซีทสำหรับการนั่งโดยสารในรถยนต์ โดยอธิบดีกรมการค้าภายในได้เรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปแล้วเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการเชิญห้างสรรพสินค้าและผู้บริหารแพลตฟอร์มต่างๆที่จำหน่ายคาร์ซีท ได้มีการสั่งการให้ 1.ห้ามปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด 2.ถ้ามีการขอปรับราคาเพราะต้นทุนนำเข้าสูงขึ้นหรือเหตุอื่น ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายในก่อน
นอกจากนี้ขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าที่มีศักยภาพ เช่น แม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี ช่วยนำเข้าคาร์ซีทราคาประหยัดมาจำหน่ายในประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคปฏิบัติตามกฏหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปจะติดตามการจำหน่ายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยกรมการค้าภายในแจ้งแล้วว่าห้ามแก้ไขหรือปรับราคาขึ้น หากมีการฉวยโอกาส ตรวจพบจะดำเนินคดีตามมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ถือว่าเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้บริโภคพบข้อสงสัยว่าจะเป็นการค้ากำไรเกินควร ขอให้ช่วยแจ้งสายด่วนกระทรวงพาณิชย์ 1569 เพื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะนี้เท่าที่ติดตามราคาคาร์ซีทในตลาด จากการสำรวจของพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าราคามีความแตกต่างกันมากตามคุณภาพรูปแบบต้นทุนนำเข้า ตกเฉลี่ยประมาณ 1,500-30,000 บาท ซึ่งแตกต่างกันมาก จะต้องมีการดำเนินการติดตามโดยใกล้ชิดต่อไป และกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องแจ้งราคาจำหน่ายมายังกรมการค้าภายในในฐานะเลขานุการคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และขอบคุณผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคจะได้ปฏิบัติตามกฏหมายเพื่อความปลอดภัยของเด็กที่ต้องโดยสารรถยนต์ต่อไป
อนึ่ง กรณีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้เป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและจะมีผลในวันที่ 5 กันยายน 2565 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา พระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับล่าสุด ซึ่งยังมีเวลาอีกประมาณ 4 เดือน ผลทางกฎหมายการบังคับใช้จึงจะเกิดดังนั้นประชาชนยังมีเวลาเตรียมตัวและกระทรวงพาณิชย์เป็นปลายทางของสถานการณ์ด้านราคาก็จะได้ประสานงานเรื่องสินค้าได้มาตรฐานราคาย่อมเยานำเข้ามาให้เป็นทางเลือกและโอกาสของประชาชนไม่ให้เป็นภาระ