ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 14.35 จุด แรงกดดันจากปัจจัยนอกประเทศ โดยเฉพาะการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โบรกมองหุ้นไทยมีความเปราะบางระมัดระวังการลงทุน มองพรุ่งนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,600 -1,625 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ1,605.98 จุด ลบ 14.35 จุด หรือ 0.89 % โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,611.67 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,592.10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 62,664.04 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับ Sentiment เชิงลบจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะปัจจัยการปรับขึ้นดอกเบี้ยและการดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงลด
แต่จากปัจจัยภายในประเทศที่มีความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากการกลับมาเปิดประเทศ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ประคองให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้ อย่างไรก็ตาม มองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีความเปราะบางค่อนข้างมากจากปัจจัยในต่างประเทศเป็นหลัก โดยควรระมัดระวังในช่วงของการประกาศตัวเลขสำคัญๆทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะออกมากับความกังวลของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐได้
สำหรับมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่านักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 693.18 ล้านบาท ต่างประเทศขายสุทธิ 432.44 ล้านบาทบัญชีบล. ซื้อสุทธิ 79.88 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 1,045.74 ล้านบาท ด้านแนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,620-1,625 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
FTI มูลค่าการซื้อขาย 3,736.20 ล้านบาท ปิดที่ 3.84 บาท เพิ่มขึ้น 1.34 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,168.80 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,045.97 ล้านบาท ปิดที่ 155.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,563.65 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,544.93 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง