คลังประเมินปรับจีดีพีรอบใหม่ ก.ค.65 นี้ เผยมีปัจจัยหลายอย่างเปลี่ยนแปลง เชื่อยังมีปัจจัยบวกโดยเฉพาะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ระดับสูง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในขณะนี้ว่า สศค. ยังอยู่ระหว่างการประเมิน เนื่องจากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะราคาน้ำมัน และภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะมีการแถลงตัวเลขจีดีพีใหม่ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565
อย่างไรก็ตามจากการประเมินภาวะเศรษฐกิจของหน่วยงานต่างๆ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 65 จะขยายตัวที่ 3.2% และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ (สศช.) คาดว่าจะขยายตัวที่ 3% ขณะที่กระทรวงการคลัง ที่คาดการณ์ไว้ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ค่ากลางอยู่ที่ขยายตัว 3.5% ดังนั้น ตัวเลขที่หลายหน่วยงานประเมินก็ยังอยู่ในกรอบ คือ 3% – 3.5%
“สศค. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ก็จะมีการแถลงตามรอบ โดยรอบถัดไปคือในช่วงเดือนกรกฎาคม ครั้งนี้คงต้องมีการปรับแน่ๆ เพราะมีปัจจัยเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งปัจจัยที่มีผลมากสุด คือเรื่องราคาน้ำมัน ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อก็ต้องไปดูผลกระทบในแง่ของกำลังซื้อ และภาษีพื้นฐานของการบริโภค กลุ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต และภาษีสรรพสามิตด้วย”
ขณะที่ปัจจัยบวกในประเทศยังมี คือ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังมีความแข็งแกร่ง สัดส่วนหนี้ต่างประเทศระยะสั้นก็ไม่สูง และมีหนี้ต่างประเทศเพียงหลักแสนล้านบาทเท่านั้น
สำหรับกรณณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ขณะนี้ สศค. ยังอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบในด้านการคลัง ซึ่งเบื้องต้นมองว่าจะไม่กระทบต่อผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2565 และเชื่อมั่นว่าทั้งปีจะสามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าที่ 2.4 ล้านล้านบาท
ส่วนมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลนั้น ยังคงมีเวลาพิจารณา เพราะมาตรการปัจจุบันยังคงดำเนินอยู่ โดยจะสิ้นสุด วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 นี้ ส่วนรายได้ของกรมสรรพสามิต ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ (ตุลาคม 2564 – เมษายน 2565) ยังคงเกินเป้าหมายกว่า 7.4 หมื่นล้านบาท ส่วนจะมีการขยายต่อมาตรการไปอีกนั้น ก็ต้องมีการศึกษาและวิเคราะห์ว่าจะมีผลต่อเรื่องรายได้ภาษีมาน้อยเพียงได้