ค่าเงินบาทในสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าสูงสุด 35.12 บาทต่อดอลลาร์ ทุบสถิติใหม่ในรอบ 5 ปี 3 เดือน หลังเฟดใช้ยาแรงขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สกัดเงินเฟ้อจ่อหลุด 36 บาทต่อดอลลาร์หรือไม่
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบให้กรอบ 35.00-35.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ติดตามคือข้อมูลยอดขายบ้านสหรัฐฯ และส่งออกนำเข้าเดือนพ.ค.ของไทยตลาดมีแนวโน้มผันผวนสูงต่อเนื่อง
สำหรับเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปี 3 เดือน แตะระดับ 35.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเป็นผลมาจากกระแสเงินทุนไหลออกและการปิดรับความเสี่ยงทั่วโลกท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการใช้ยาแรงในการคุมเงินเฟ้อของธนาคารกลางหลายแห่งซึ่งต้องแลกด้วยการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่การฟื้นตัวของแต่ละประเทศแตกต่างกัน
ทั้งนี้มองว่าเงินบาทอ่อนค่าแต่ไม่น่าถึง 36 บาทต่อดอลลาร์เพราะสกุลเงินดอลลาร์มาไกลมากแล้ว ขณะที่ธนาคารกลางหลายแห่งขยับขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน แต่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงอีกพักใหญ่ ดังนั้นการที่เงินบาทจะกลับไปแข็งค่าอย่างมั่นคงคงต้องรอช่วงปลายไตรมาส 3 จากการคาดการณ์นโยบายเฟดและอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Yield) ของสหรัฐฯที่นิ่งขึ้น รวมถึงโมเมนตัมการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวเป็นสำคัญ
ส่วนการเคลื่อนไหวสกุลภูมิภาคตั้งแต่1 มิ.ย.-17 มิ.ย. ที่ผ่านมาพบว่า วอน-เกาหลีใต้อ่อนค่าสุด 3.66% รองลงมาคือ บาท-ไทย 2.86%, ดอลลาร์-ไต้หวัน 2.36%, เปโซ-ฟิลิปปินส์ 2.01%, รูเปียห์-อินโดนีเซีย 1.53%, ดอลลาร์ -สิงคโปร์ 1.12%, ริงกิต-มาเลเซีย 0.56%, รูปี-อินเดีย 0.55%, หยวน-จีน 0.44% และดอง-เวียดนาม 0.17%
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 1มิ.ย.-17 มิ.ย. ต่างชาติ ขายสุทธิหุ้นไทย 2 หมื่นล้านบาท และพันธบัตรไทยขายสุทธิ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยเห็นว่า ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
