ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ตามตลาดหุ้นโลกแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป จับตากลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมัน-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ยุโรป ประเมินกรอบพรุ่งนี้แนวรับ 1,560 จุด แนวต้าน 1,590 จุด เน้น Selective Buy
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัสเปิดเผยถึง ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,580.20 จุด บวก 11.44 จุด หรือ 0.73%โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ1,584.05 จุด และต่ำสุดที่ระดับ1,575.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59,162.88 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกตามตลาดหุ้นโลกที่ขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมาส่งผลให้ตลาดเอเชียบวกร้อนแรง โดยเฉพาะในเอเชียเหนือ เพราะมีหุ้นกลุ่มเทคมาก เช่น ฮ่องกงบวก 2.38% ไต้หวันบวก 1.6% และเกาหลีใต้บวก 1.5% ขณะที่เอเชียใต้บวกเบาบาง
สำหรับหุ้นที่ดันตลาดเป็นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น DELTA +4.02% KCE +2.87%และ HANA +5.56% ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่หนุนตลาดวันนี้ เช่น PTT +2.26% CPALL+2.10%”หุ้นไทยรีบาวด์ตามตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะหุ้นเทคมาแรง จากปัญหาชิปขาดแคลนผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่การขุดคริปโตฯลดลงทำให้การใช้ชิปลดลงไปด้วย”
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามเน้น 3 ประเด็นหลักคือการส่งออกไทยเดือนพ.ค.คาดว่าโต 8.3% การประชุมโอเปกพลัส คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค.ส.ค. จาก 4.32 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 6.84 แสนบาร์เรลต่อวันทำให้ปริมาณซัพพลายในตลาดเพิ่มกดหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมถึงข้อมูลภาคการผลิต ISMของสหรัฐฯและ CPI ของยุโรป คาดว่าจะอยู่ที่ 8.9 %นอกจากนี้ในส่วนของไทการทำ Window Dressing กลางปี อาจแผ่วลงได้
ด้วย 2 ปัจจัยหลักๆ คือ
- ในปีหลังแรงการทำ Window Dressing กลางปีแผ่วลง สะท้อนได้จากสถิติใน5 ปีหลังสุด (ปี 2560 – 2564) ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย. 65 สถาบันฯ ซื้อสุทธิเฉลี่ยเพียง 255 ล้านบาท ขณะเดียวกัน SET Index ปรับตัวลดลงเฉลี่ย0.73% (ปรับตัวลดลง 4 ใน 5 ปี)
- ช่วงท้ายเดือน มิ.ย. เป็นช่วงคาบเกี่ยวกับการจองซื้อหุ้น IPO ขนาดใหญ่ ทำให้นักลงทุนสถาบันฯ อาจมีการกันเงินบางส่วนมาซื้อหุ้นดังกล่าว แทนการทำWindow Dressing ได้
ทั้งนี้มองแนวโน้มหุ้นไทยขึ้นในกรอบจำกัดจากราคาน้ำมันที่คาดว่าปรับตัวลง การทำ Window Dressing เบาลง ประเมินกรอบแนวรับ 1,560 จุด แนวต้าน 1,590 จุด
