“สุพัฒนพงษ์”ส่งซิก“กกพ.” เคาะขึ้นค่าไฟดูข้อมูลรอบด้าน

“สุพัฒนพงษ์” ย้ำกกพ.พิจารณาค่าไฟงวดใหม่  เดือนก.ย.-ธ.ค.รอบคอบ ชี้ต้องผ่านความเห็นของกระทรวงพลังงานก่อนเคาะขึ้นราคา

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยถึงกรณีสูตรการคำณวน ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่า Ft งวดที่ 3 (ก.ยธ.ค. 2565) ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คาดการณ์เบื้องต้นอาจจะต้องปรับระหว่าง 90-100 สตางค์/หน่วย และอยู่ระหว่างที่สำนักงานกกพ.เปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนใน 3 แนวทางถึงการปรับขึ้นว่า  ได้กำชับให้ กกพ. ติดตามราคาค่าไฟฟ้าก่อน ไม่ควรรีบร้อน เพราะมีหลายวิธี โดยในส่วนของการที่จะมีการปรับขึ้นตามสูตรหรือไม่นั้น จะต้องมีการหารือกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตามกฎหมายและกระบวนการที่กำหนดก่อน และยังต้องรับฟังความเห็นจากกระทรวงพลังงานด้วย

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า แม้ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง แต่ยังไม่สามารถลดราคาน้ำมันในกลุ่มดีเซลได้ ลดได้เพียงกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ เนื่องจากกองทุนน้ำมันฯ ต้องอุดหนุนราคาดีเซลอีกลิตรละ 3.82 บาทต่อลิตร จากเดิมอุดหนุนอยู่เกือบ 12 บาทต่อลิตร คิดเป็นเงินที่กองทุนฯใช้อุดหนุนราคา น้ำมันลดลงเหลือ 236.63 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 7,336 ล้านบาทต่อเดือน และอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ลดลงเหลือ 44.71 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 1,386 ล้านบาทต่อเดือน

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผอ. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ระบุว่า วันนี้ราคาดีเซลอยู่ที่ลิตรละประมาณ 38.69 บาท หากยึดตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ถึงมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนรอบใหม่ กำหนดมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล 50% ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย.) ต้องขึ้นราคาอีก 1.50 บาทต่อลิตร ดังนั้น กบน. ยังตรึงดีเซลต่อไปเพื่อดูแลประชาชน หากถามว่ามีโอกาสเห็นราคาดีเซลขายปลีกในไทยลดลงเมื่อใด คงบอกได้คร่าว ๆ เพียงว่าหากกองทุนน้ำมันฯ เหลือการอุดหนุนต่ำมาก ๆ หรือเป็นศูนย์และมีเงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติม อาจนำมาพิจารณาลดราคาลงบ้างได้บางส่วน