หุ้นไทยบวกร้อนแรง 9.93 จุด เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าซื้อหุ้นไทยคึกคัก มองแนวโน้มพรุ่งนี้มีโอกาสไปต่อ ลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ-จีน
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่
1,618.80 จุด บวก 9.93 จุดหรือ0.62% ระหว่างวันซื้อขายสูงสุด 1,620.98 จุด และต่ำสุดที่ 1,606.48 จุด
มูลค่าการซื้อขาย 57,673.66 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งบวกและลบสลับกันขึ้นกับปัจจัยแวดล้อมของแต่ละประเทศโดยตลาดหุ้นเอเชียเหนือ เช่น ญี่ปุ่นร่วง 0.88% ฮ่องกง 0.21% โดยเฉพาะไต้หวัน หลังจากนางแนนซี เพโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันผ่านพ้นไปแล้ว 9 วัน ต่างชาติเทขายหุ้นไต้หวัน 478 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้เม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชียเหนือย้ายมาตลาดหุ้นเอเชียใต้ โดยเฉพาะไทยมีการซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 8,612 ล้านบาท
สำหรับวันนี้หุ้นไทยปิดบวกมาจาก 2 ประเด็นหลักคือ 1.เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทย 2.การประกาศงบ
ไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียน 96 บริษัท งบฯออกมาดีกว่าคาด 5.3% ซึ่งเป็นการเซอร์ไพรส์ตลาด
ส่วนหุ้นที่ outperform ได้ดีนั้น ประกอบด้วย 4 กลุ่มหลัก คือท่องเที่ยว เช่น AWC เพิ่มขึ้น 4% การเงิน เช่น BAM1.2% โรงพยาบาล เช่น BDMS 1.9% ประกัน เช่น BLA 2%
อย่างไรก็ตาม กรณีที่รมว.แรงงานฯเตรียมชงครม.ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-8% มีผลต.ค.นี้นั้น จากสถิติในอดีตการขึ้นค่าแรง 6 รอบนับจากที่วันประกาศไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย โดยดัชนีบวกขึ้น 0.5%แต่หุ้นที่กดดันตลาดยังเป็นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง
ขณะที่ประเด็นที่ต้องติดตามคือการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของจีนและสหรัฐฯ การขึ้นดอกเบี้ย ของไทยคาดว่าจะอยู่ที่ 0.25% ในการประชุมกนง.พรุ่งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ด้านกลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นชอบ ประเมินกรอบเคลื่อนไหว 1,610-1,630 จุด