เงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เปิดสถิติ 1-11 ส.ค. เงินนำโด่งแข็งโป๊ก หลังเงินดอลลาร์ตลาดโลกเผชิญ แรงขายทำกำไรผลพวงจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาดเมื่อปลายเดือน ก.ค.
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ติดตามจีดีพีไตรมาส 2 ของไทย กรุงศรีคาด เติบโต 2.7% เมื่อเทียบปีต่อปีนอกจากนี้ยังมียอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของสหรัฐฯ โดยในระยะนี้ตลาดจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯมากกว่าความเห็นของเฟด เพื่อประเมินการขึ้นดอกเบี้ย หลังจากเงินเฟ้อเดือนก.ค.ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในเดือน ก.ย. มีน้อยลง และอาจจะขึ้น 0.5% แทน อย่างไรก็ตาม เดือนนี้ต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท ซื้อพันธบัตรสุทธิ 6.2พันล้านบาท
สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคตั้งแต่วันที่ 1-11 ส.ค. พบว่า บาท-ไทยแข็งค่ามากสุด 4.32% รองลงมาเป็นส่วนสกุลเงินที่แข็งค่าคือดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.79%, รูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.39%, หยวน-จีน 0.10%, ริงกิต-มาเลเซีย 0.10% ยกเว้นเปโซ-ฟิลิปปินส์อ่อนค่า 0.42%, วอน-เกาหลีใต้ 0.30%, รูปี-อินเดีย 2.22%, ดอง-เวียดนาม 0.18%, ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.05%
ส่วนในเดือนส.ค.นี้เงินบาทกลับมาแข็งค่าหลังจากอ่อนค่าอย่างรุนแรงในเดือน มิ.ย. และ ก.ค. โดยเงินดอลลาร์ในตลาดโลกเผชิญแรงขายทำกำไรหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาดเมื่อปลายเดือน ก.ค. โดยหันไปให้ความสำคัญกับตัวเลขเศรษฐกิจมากขึ้น (data dependent แทน forward guidance) ในการตัดสินใจด้านนโยบายในแต่ละรอบการประชุม
อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของเงินบาทในช่วงสั้นอาจเป็นไปอย่างจำกัดหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
