‘บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์’ หรือ CV โชว์ศักยภาพธุรกิจแปรรูปขยะ หลังเปิดดำเนินการโรงงานคัดแยกและแปรรูปขยะ RDF เพื่อใช้ผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF ป้อนโรงไฟฟ้าขยะ โคลเวอร์ พิจิตร (CPX) และขายให้โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนถ่านหิน
นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV ผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในการเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำที่ส่งมอบคุณค่าจากพลังงานหมุนเวียนสู่สังคมโลกเพื่อความยั่งยืน ได้ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อความยั่งยืนด้านพลังงานในอนาคต
CVR ดำเนินธุรกิจคัดแยกและแปรรูปขยะ RDF (Refuse Derived Fuel) จากขยะชุมชน และขยะอุตสาหกรรม (ชนิดไม่อันตราย) โดยรับกำจัดขยะอุตสาหกรรม (ชนิดไม่อันตราย) ได้แก่ เศษพลาสติก, เศษผ้า, เศษยาง, เศษหนัง เป็นต้น เพื่อนำมาแปรรูปเป็น RDF type 3 กำลังการผลิต 300 ตันต่อวัน โดยได้รับใบอนุญาต 106 ประกอบกิจการ ผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรมและขยะชุมชน เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CV กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับบริการของ CVR มี 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.) รูปแบบ Onsite ให้บริการรื้อร่อนขยะชุมชน ทั้งขยะใหม่ และขยะเก่า ณ บ่อขยะเอกชนต่างๆ โดยหลังรื้อร่อนจะได้ RDF type 1 และขยะอินทรีย์ โดย RDF type 1 จะถูกส่งไปยังโรงแปรรูปขยะ RDF ของ CVR ที่จ.พิจิตร เป็น RDF type 3(ขนาดไม่เกิน 3 cm.) และ 2.) รูปแบบ Factory เป็นกระบวนการแปรรูปเชื้อเพลิง RDF ที่โรงงาน ในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือตอนล่าง จ.พิจิตร
สำหรับ RDF ที่ได้จากกระบวนการแปรรูปขยะ RDF ในส่วนที่ผลิตจากขยะอุตสาหกรรม (ชนิดไม่อันตราย) จะถูกส่งไปยังโรงไฟฟ้าโคลเวอร์ พิจิตร (CPX) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และส่งขายให้กับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมภายนอก อาทิ โรงงานปูนซีเมนต์เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนถ่านหินได้ ส่วน RDF ที่ได้จากการรื้อร่อนขยะชุมชน บริษัทฯ ก็สามารถส่งขายให้กับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมภายนอกเช่นกัน
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถแปรรูปขยะ RDF และผลิตเชื้อเพลิงได้อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ พร้อมรับกำจัดขยะจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ที่ต้องการกำจัดของเสีย (ชนิดไม่อันตราย) อย่างถูกวิธีและถูกต้องตามกฎหมาย อาทิ เศษผ้า เศษไม้จากการแปรรูป เศษพลาสติก และมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าบ่อขยะฝังกลบเอกชน ที่ต้องการเคลียร์พื้นที่บ่อฝังกลบขยะที่เต็มแล้วหรือใกล้จะเต็ม รวมถึงพร้อมรับขยะพลังงาน จากแหล่งชุมชน อาทิ ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงแรม เป็นต้น โดยผู้สนใจสามารถติดต่อทาง CVR เพื่อส่งขยะดังกล่าวมาใช้ผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF ได้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาการจัดการขยะของสังคม และนำขยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถลด Carbon Footprint for Organization (CFO) ขององค์กรและ Carbon Footprint of Product (CFP) จากการกำจัดขยะอีกด้วย
“เราขอเชิญชวนให้ชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง นำขยะมากำจัดกับทาง CVR เพื่อใช้ผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF เพราะด้วยรูปแบบดังกล่าว ถือเป็นการพัฒนาพลังงานสะอาดเพื่อแก้ไขปัญหาขยะชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ โดยประโยชน์ที่จะได้รับมีมากมาย อาทิ ชุมชนและสังคม จะได้พื้นที่บ่อฝังกลบเดิมกลับมาใช้ประโยชน์ โดยไม่ต้องขยายพื้นที่หรือหาหลุมขยะเพิ่ม สามารถกลับมารองรับขยะใหม่ได้อีกครั้งหรือนำพื้นที่บ่อขยะเดิมไปพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวได้ เป็นการจัดการขยะอย่างยั่งยืนและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากปัญหาขยะ นอกจากนี้ทำให้โรงงานอุตสาหกรรม มีแหล่งกำจัดขยะอุตสาหกรรมประเภทไม่อันตรายที่ถูกต้องตามกฎหมาย ลดค่าใช้จ่ายกำจัดขยะ และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร (CFO) และผลิตภัณฑ์ (CFP) อีกทางหนึ่ง” นายเศรษฐศิริ กล่าว