“สนพ.”เร่งทบทวนแผนพลังงานชาติ พร้อมรับมือความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

สนพ.เตรียมปรับปรุงแผนพลังงานชาติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ คาดเปิดเฮียริ่งในไตรมาส 1/67 ก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เล็งเปิดเสรีกิจการไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในปี 2567 จะมีการทบทวนและปรับปรุงแผนพลังงานชาติ หรือ National Energy Plan (NEP) ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือ การลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ในภาคพลังงาน ภายในปี 2050 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน โดยแผนงานด้านพลังงานที่ร่างไว้ประกอบด้วยแผนย่อย 5 แผน คือแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP)แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP)แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP)แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan)แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan)

ซึ่งคาดว่าภายในเดือน มี.ค.2567 จะนำเสนอคณะทำงาน โดยมี สนพ.เป็นประธาน หลังจากนั้นจะเนอนายพีระพันธุ์ สาฃีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เห็นชอบก่อนนำไปเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะภายในไตรมาส 1/2567

“เมื่อผ่านขั้นตอนการประชาพิจารณ์ปรับปรุงเรียบร้อยจะเสนอร่างแผนพลังงานชาติ ต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาและประกาศใช้ต่อไป”นายวีรพัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จะเร่งให้แล้วเสร็จและประกาศใช้ให้ทันในปี 2567 และตอนนี้ทั้ง 5 แผนอยู่ระหว่างการปรับปรุง โดยเฉพาะแผน PDP เพราะที่ผ่านมาทั่วโลกเกิดปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้สมมติฐานมีการเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องปรับเปลี่ยนตัวเลข เพราะต้องคำนึงใน 3 เรื่องหลักคือ ด้านความมั่นคง ด้านต้นทุน เพื่อให้ราคาค่าไฟที่เหมาะสม ด้านผลกระทบต่อสื่งแวดล้อมที่ต้องเป็นไปตามแผน

ขณะที่ Gas Plan ถือเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องจากแผน PDP ในเรื่องของการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ที่เป็นส่วนสำคัญหลักในการผลิตไฟฟ้าที่มีการใช้ในปริมาณที่สูง เพราะจากการที่จะต้องหาก๊าซฯ ให้เพียงพอ แล้วยังต้องมองว่าอนาคตเมื่อใช้มากขึ้น รวมถึงสัดส่วนการใช้ในประเทศและการนำเข้า LNG ด้วย

นอกจากนี้ แผนงานในปี 2567 ของ สนพ. จะเสนอแนวทางการเปิดเสรีในกิจการไฟฟ้า ซึ่งจะมีโครงสร้างกิจการไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการแข่งขันในระยะทดลอง-นำร่อง พ.ศ. 2567-2568 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดกลไกการแข่งขันที่สะท้อนต้นทุนทางด้านราคาแทนการอุดหนุนทางด้านราคาและเปิดโอกาสให้มีธุรกิจใหม่ทางด้านพลังงานเกิดขึ้น และภาครัฐสามารถใช้เป็นกลไกให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero Carbon Emission ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อีกด้วย