จับตาสรรหา “ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงคนใหม่” หลังมีการปรับคุณสมบัติผู้สมัครขยายอายุจากไม่เกิน 61 ปีเป็น 65 ปี
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ประกาศรับสมัคร “ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงคนใหม่” แทนนายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ที่หมดวาระ โดยกระทรวงพลังงานได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีนายณอคุณ สิทธิพงศ์ เป็นประธาน มีการประกาศเปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ระยะเวลารับสมัครจนถึง 21 กันยายน 2567
ทั้งนี้จากประกาศพบว่า คุณสมบัติของผู้สมัครเปลี่ยนแปลงไปจากกฎเกณฑ์เดิม โดยขยายอายุของผู้สมัครให้มีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ จากก่อนหน้านี้กำหนดไม่เกิน 61 ปี ซึ่งเกณฑ์นี้คณะอนุกรรมการสรรหาฯได้นำเสนอ ขออนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดการตั้งคำถามจาก “กบน.เสียงข้างน้อย” ในที่ประชุมถึงเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ เพื่อเปิดทางใครอย่างไรหรือไม่
สำหรับบทบาทของผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนฯตามกฎหมายมีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงานฯ ให้เป็นไปตามพรบ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง มีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี หากมีอายุไม่เกิน 65 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้ แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน และต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่ออายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ อัตราเงินเดือนประจำ 1-2 แสนบาท และผลตอบแทนอื่นที่เป็นตัวเงินไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินเดือนประจำ
ทั้งนี้บทบาทของ “ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนฯ” ในยุคนี้ต้องเข้ามาบริหารจัดการเงินไหลเข้าออกของกองทุนฯ ณ วันที่ 25 ส.ค.67 ซึ่งติดลบอยู่ 108,559 ล้านบาท เป็นหนี้จากการตรึงราคาน้ำมันดีเซล 61,003 ล้านบาท และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) 47,556 ล้านบาท ปัจจุบันมีเงินไหลเข้ากองทุนฯ 133.41 ล้านบาท จากกลุ่มน้ำมัน 122.65 ล้านบาท มาจากเบนซิน 113.17 ล้านบาท ดีเซล 9.16 ล้านบาท น้ำมันเตา 0.31 ล้านบาท ส่วนแอลพีจีมีเงินไหลเข้า 10.75 ล้านบาท เงินไหลเข้าดังกล่าวสะท้อนจากสถานการณ์เศรษฐกิจจีนและสหรัฐที่ซบเซา และการคลี่คลายของสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง
แต่ล่าสุดราคาน้ำมันกลับมาผันผวนอีก หลังจาก “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุเมื่อวันที่ 23 ส.ค.67 ที่ผ่านมาว่า เตรียมพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยจากปัจจุบันที่อยู่ระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี
