พีระพันธุ์ ส่งหนังสือถึงกกพ.ชะลอรับซื้อไฟฟ้าเฟส 2 ล็อตโควตา 2,180 เมกะวัตต์ หลังฝ่ายค้านเสนอให้ปลดล็อกและ เปิดรับซื้อทั่วไปทั้งล็อต 3,600 เมกะวัตต์ ด้านกกพ.รอคำสั่งชัดเจนจากกระทรวงพลังงานอีกครั้ง ย้ำจะไม่มีการคว่ำโควตายกเว้นเป็นมติกบง.-กพช.หวั่นเอกชนฟ้อง
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากกรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน รูปแบบ Feed-in Tariff เฟส 2 รวม 3,600 เมกะวัตต์นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ส่งหนังสือถึงกกพ.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุให้ชะลอการเปิดรับซื้อพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 ชั่วคราวออกไปก่อน จนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้แล้วเสร็จซึ่งการมีหนังสือให้ชะลอโครงการนั้นเกิดขึ้นหลังจากมีการตั้งกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรของพรรคฝ่ายค้าน เพื่อให้กระทรวงพลังงานทบทวนหลักเกณฑ์การให้โควตา โดยให้เปิดกว้างรับซื้อเฟสนี้เป็นการทั่วไปทั้งหมด 3,600 เมกะวัตต์ จากกำหนดเดิมให้โควตา 2,180 เมกะวัตต์ กับผู้ที่เคยเข้าประมูลในโครงการเฟส 1 ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้มีสิทธิ์ยื่นเสนอขายไฟฟ้าก่อน ส่วนอีก 1,500 เมกะวัตต์เปิดรับซื้อเป็นการทั่วไป โดยหลังจากได้รับหนังสือจาก นายพีระพันธุ์ ทาง กกพ.ได้นำเรื่องหารือในคณะกรรมการฯแล้ว โดยจะขอรอคำสั่งที่ชัดเจนจากทางกระทรวงพลังงานอีกครั้ง
สำหรับสถานะของการเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เฟส 2 นั้น ในส่วนของการให้โควตา 2,180 เมกะวัตต์บริษัทต่างๆได้ทยอยยื่นโครงการเพื่อเสนอขายไฟฟ้ามาทั้งหมดแล้ว ตามระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นไม่เกิน 7 พ.ย.67 พร้อมหนังสือค้ำประกันจากธนาคารตามหลักเกณฑ์ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายก็ได้ประกาศรายชื่อโครงการที่ยื่นขายไฟฟ้าออกมาแล้วเมื่อ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตามกำหนดกกพ.จะพิจารณาเรียงลำดับคะแนนที่ได้รับจากรอบแรก และตัดให้เหลือ 2,180 เมกะวัตต์ และประกาศรายชื่อโรงไฟฟ้าที่ผ่านการคัดเลือก 16 ธ.ค.นี้ แต่มีหนังสือจากนายพีระพันธุ์ให้ชะลอโครงการออกมาก่อน
“หลังจากนี้ต้องรอคำสั่งเป็นทางการ ซึ่งหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็เดินหน้าตามปกติ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงต้องเป็นมติของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายพีระพันธุ์เป็นประธาน และมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเท่านั้น เนื่องจากการเปิดรับซื้อไฟฟ้าเป็นมติของกบง.และกพช.ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงประกาศ เพื่อยกเลิกโควตาและให้รับซื้อเป็นการทั่วไปทั้งล็อต 3,600 เมกะวัตต์ กกพ.สามารถทำได้เพราะมีข้อยกเว้นกรณีทำตามนโยบาย แต่เอกชนก็มีสิทธิ์ฟ้องร้องได้เช่นกัน เพราะได้ยื่นเสนอโครงการพร้อมวางหนังสือค้ำประกันมาแล้ว”
สำหรับการเปิดรับซื้อเป็นการทั่วไป ประมาณ 1,500 เมกะวัตต์นั้นจะดำเนินการหลังจากล็อต 2,180 เมกะวัตต์แล้วเสร็จ ซึ่งยังไม่มีการกำหนดเวลาว่าจะเริ่มขั้นตอนเมื่อใดจนกว่ากบง.และกพช.จะกำหนดแนวทางให้ดำเนินงาน แต่ก็มีแนวทางว่าอาจจะขยายให้มากกว่า 1,500 เมกะวัตต์ แต่ทั้งหมดต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2024) เพราะการรับไฟฟ้าผูกกับต้นทุนค่าไฟฟ้าของประเทศ
