วันพุธ, มกราคม 8, 2025
หน้าแรกHighlight‘พีระพันธุ์’ลั่นกลางสภา‘ผมไม่ใช่นายทุน’ ยัน‘ไม่รู้มาก่อนว่ามีการผูกขาดพลังงาน’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘พีระพันธุ์’ลั่นกลางสภา‘ผมไม่ใช่นายทุน’ ยัน‘ไม่รู้มาก่อนว่ามีการผูกขาดพลังงาน’

“พีระพันธุ์” ลั่น “ผมไม่ใช่นายทุนหลัง“สว.นรเศรษฐ์”จี้ถามโครงสร้างรับซื้อพลังงานสะอาดเอื้อผู้มีบารมีนอกรัฐบาลหรือไม่ เจ้าตัวร่ายยาวเป็นปัญหาก่อนรับตำแหน่ง รับไม่สามารถแก้ได้ทันที พร้อมสยบข่าวร้าว บอกไม่อยากให้เข้าใจ “นายกฯอิ๊งค์” ผิด แจงแทน กำชับผมเองด้วยซ้ำ 

เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาตั้งกระทู้ถามทั่วไป ของนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ถามนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เรื่องมาตรการสนับสนุนตลาดพลังงานสะอาดผ่านโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ว่า การผลิตไฟฟ้าในปัจจุบันปล่อยมลพิษมากที่สุด ดังนั้นการเปลี่ยนผ่านไฟฟ้าไปเป็นพลังงานสะอาด เป็นสิ่งสำคัญมาก ที่ผ่านมาถูกเอื้อให้กับกลุ่มทุนที่รัฐบาลซื้อพลังงานหมุนเวียน เริ่มตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เวลาที่รัฐบาลจะซื้อ ก็อ้างเรื่องความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ตนตั้งคำถามทุกครั้งว่าเป็นความมั่นคงของประเทศ หรือของใครกันแน่ เพราะปัจจุบันเรามีกำลังการผลิตไฟฟ้า สูงกว่าความต้องการหรือหลักการสำรองไฟฟ้าอยู่แล้ว โดยเป็นการเพิ่มภาระค่าไฟให้กับประชาชนทั่วประเทศ มีโรงงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ผลิตเลย แต่ยังได้เงินจากประชาชนผ่านค่า FT ที่สำคัญการรับซื้อนั้น ไม่มีการประมูล ตนเห็นด้วยกับความกล้าหาญของนายพีระพันธุ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการรับซื้อไฟฟ้าและให้ชะลอการรับออกไป แต่ยังต้องติดตามว่าจะกลับมาดำเนินการต่อหรือไม่ 

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ ‘ผู้มีบารมีนอกรัฐบาล’ ที่ไปถ่ายรูปในสนามกอล์ฟใช่หรือไม่ ผมก็ไม่ทราบ และท่านมองเห็นถึงโครงสร้างการรับซื้อพลังงานสะอาดหรือไม่ เช่น โซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) จะมีการขยายการรับซื้อจากภาคประชาชนเหมือนกับกลุ่มทุนหรือไม่ รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้การขออนุญาตใช้เวลานาน ท่านจะทำอย่างไร จะมีมาตรการจูงใจภาคครัวเรือนเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้น และจะมีวิธีลดภาระอย่างไร”นายนรเศรษฐ์ กล่าว

ด้านนายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า ยืนยันว่าส่วนตัวไม่ทราบมาก่อน ว่ามีการผูกขาดพลังงาน เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง จึงยังไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ในทันที ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน แต่ยอมรับว่า ตนหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังมีข้อผูกพันทางกฎหมาย ไม่ใช่ทันใจที่เราอยากทำ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า จะต้องลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดย 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลยังไม่มีนโยบายขึ้นค่าไฟฟ้าและตรึงราคาค่าแก๊สไว้ตลอด แม้จะยังไม่สามารถลดราคาได้ แต่ได้พยายามไม่ให้ขึ้นไปมากกว่านี้ ที่สำคัญรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อประเด็นปัญหานี้ ถ้าติดตามการทำงานของตน มันมีคำตอบอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว

“ส่วนตัวผม ไม่ชอบเรื่องความไม่โปร่งใส ไม่ถูกต้อง และไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้น นโยบายเรื่องนี้ ผมขอเรียนว่า เรามีความคิด ผมกับท่านตรงกันอยู่แล้วที่จะดำเนินการ สำหรับประเด็นเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน ผมเห็นด้วย แต่ผมคิดอีกแบบ ความมั่นคงทางพลังงาน ไม่ใช่เพียงแค่การทำให้มีพลังงานในปริมาณที่มากขึ้น แต่ความมั่นคงทางพลังงานที่แท้จริง ต้องทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองในการมีไฟฟ้าใช้ได้ โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ทั้งจากพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานน้ำ ประเทศเราที่เหมาะสมที่สุดคือ แสงอาทิตย์ ดังนั้นจึงควรคิดว่าจะทำอย่างไร ให้ประชาชนมีความมั่นคงทางด้านพลังงาน อย่าพูดถึงขายเลย เอาแค่ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ ไม่ต้องพะวงว่าอีก 4 เดือน ค่าไฟจะปรับเท่าไหร่ ปัจจุบันที่ต้องปรับราคา เพราะไฟฟ้าผลิตจากแก๊ส เราเจอภาวะราคาตลาดโลก ทำให้กำหนดราคาคงที่ไม่ได้ ผมก็พยายามศึกษา เพราะเป็นสัญญาที่ทำข้อตกลงไว้แล้ว” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องแยกส่วนการไฟฟ้า ไปอยู่ในกระทรวงพลังงานและกระทรวงมหาดไทย เพราะเมื่อมีการแยกระหว่างการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ทั้ง 2 หน่วยงาน ต้องรับไฟฟ้ามาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นฝ่ายผลิต แต่ไม่ได้เป็นฝ่ายขาย ทุกขั้นตอนต้องมีกำไร หากไม่มีกำไร ก็ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และประชาชนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ตนอยากจะหาทางแก้ปัญหา แต่ทั้งหมดนี้ สว. และ สส. เป็นผู้บัญญัติกฎหมาย รู้หรือไม่ว่า กฎหมายไฟฟ้าฝ่ายผลิต มีมาตั้งแต่ปี 2511 ดังนั้นควรมีการปรับแก้ ปัญหาพลังงานไม่ใช่ว่าไม่มีใครเห็น แต่ประเด็นคือใครจะเป็นคนทำ

“ท่านนายกฯแพทองธาร (ชินวัตร)ก็กำชับผมด้วยซ้ำไป ผมไม่อยากให้เข้าใจผิด ตั้งแต่ท่านนายกฯเศรษฐา (ทวีสิน) มาถึงนายกฯแพทองธาร ได้กำชับผมมาโดยตลอด ให้ช่วยแก้ปัญหา” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า เวลาประชาชนจะขอติดแผงโซลาร์ ต้องขออนุญาตถึง 5 หน่วยงาน ซึ่งซ้ำซ้อนและยุ่งยากมาก รวมถึงต้องรอเป็นปี ตนในฐานะกำกับกระทรวงอุตสาหกรรมและพลังงาน ได้สั่งการแก้ระเบียบไปแล้ว วันนี้การแก้กฎหมายไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน อีกนานกว่าจะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงเรื่องการหาเงินทุน ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับ ‘นายทุน’ เพราะตนไม่ใช่นายทุน แต่วันนี้มันเกิดกับพี่น้องประชาชน ตนต้องแก้ไข หากท่านติดตามข่าวสารเหมือนที่ท่านพูด ท่านจะเห็นเลยว่าอะไรที่ส่อไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ตนสั่งระงับทั้งนั้น เพราะตนไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกับใคร

“ผมมาทำหน้าที่ตรงนี้ ก็เหมือนกับท่าน เรามาเป็นผู้แทน มาทำงานให้กับประชาชน ครั้งหนึ่งในชีวิตขอทำตรงนี้ทำให้ดีที่สุด ผมทำทุกอย่างภายใต้นโยบายรัฐบาลและตามแนวทาง คือเพื่อความมั่นคงทางพลังงานให้กับประชาชน” นายพีระพันธุ์ กล่าว

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img