“ก.พลังงาน” มั่นใจหลังให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า-น้ำมันโดยละเอียด พร้อมสั่งการให้วางแนวทางที่เข้มข้นขึ้นป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
หลังจากเกิดเหตุแผ่นหินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบโครงการพื้นฐานโดยละเอียด ทั้งโรงไฟฟ้า เขื่อนผลิตไฟฟ้า โครงสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน การขนส่งน้ำมัน ซึ่งในภาพรวมได้รับผลกระทบเล็กน้อย ไม่ส่งผลการให้บริการประชาชน พร้อมสั่งการให้เตรียมวางแนวทางป้องกันที่เข้มข้นมากขึ้นเพื่อรองรับหากเกิดเหตุขึ้นอีกในอนาคต
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.68 นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน ได้รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานโดยละเอียด ภายหลังการเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งในส่วนของโครงสร้างไฟฟ้า ได้รับผลกระทบเล็กน้อย แต่ไม่กระทบต่อการจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชน โดยมีบางโรงไฟฟ้ามีการหลุดออกจากระบบหลังจากเหตุแผ่นดินไหวซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยอัตโนมัติ แต่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ได้บริหารจัดการจึงทำให้ประชาชนในบางพื้นที่ได้รับผลกระทบในระยะเวลาอันสั้น
ส่วนในด้านความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนนั้น กฟผ. ได้ตรวจสอบด้วยเครื่องวัดอัตราเร่งของพื้นดิน ซึ่งไม่พบความผิดปกติใดๆ ในตัวเขื่อนและอาคารประกอบอื่นๆ ทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนต่างๆ ของ กฟผ. จึงมั่นใจได้ว่าโครงสร้างระบบไฟฟ้าและเขื่อนมีความมั่นคงปลอดภัย
ด้านโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันและการส่งก๊าซธรรมชาติผ่านท่อนั้น ในส่วนของระบบการรับส่งก๊าซธรรมชาติและโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หลังการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่ายังคงเป็นปกติและสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อการส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่โรงไฟฟ้าและผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติ ส่วนคลังน้ำมันและคลังปิโตรเลียมจำนวน 22 แห่งทั่วประเทศของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTT OR ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแต่อย่างใด
“หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานทั้งไฟฟ้าและน้ำมันโดยละเอียด ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโรงไฟฟ้า เขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศ ระบบการส่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันผ่านท่อ รวมทั้งคลังเก็บน้ำมันและปิโตรเลียม ซึ่งทั้งหมดได้รับรายงานว่า ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน นอกจากนั้น ก็ได้มีการสั่งการให้วางแผนทางด้านความปลอดภัยให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยไม่เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงมากขนาดนี้ นอกจากการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แล้ว กฟผ. และ ปตท. ส่งมอบอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งได้ส่งหน่วย Seal เพื่อสนับสนุนการปฎิบัติภารกิจของทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยในการค้นหาผู้ติดอยู่ภายใต้ซากอาคารย่านจตุจักร สุดท้ายนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพลังงานมีการซ้อมแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น โครงสร้างด้านพลังงานของไทย ทั้งไฟฟ้าและน้ำมันมีความมั่นคง ปลอดภัย และพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต” นายวีรพัฒน์ กล่าว