“สุพัฒนพงษ์” ไฟเขียวขึ้นก๊าซหุงต้ม 15 บาทต่อถังขนาด 15 กก. เป็น 333 บาทเริ่มเม.ย.นี้ ลั่นตรึงดีเซลให้นานที่สุด ชี้แนวโน้มราคาน้ำมันผันผวนยาวนาน หลังผลเจรจารัสเซีย-ยูเครนไร้ข้อยุติ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาพลังงานเวลานี้มีความผันผวนและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในรอบ 14 ปีหลังจากเกิดเหตุความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยประเทศไทยได้รับผลกระทบจากราคาพลังงาน รวมถึงค่ากระแสไฟฟ้าที่สูงขึ้น โดยรัฐบาลย้ำว่า จะพยายามดูแลลดผลกระทบให้กับประชาชนอย่างเต็มที่
สำหรับการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรนั้น จะพยายามให้นานที่สุดเท่าที่มีการขอขยายวงเงินกองทุนน้ำมัน เชื้อเพลิงไว้จาก 3 หมื่นล้านบาท เป็น 4 หมื่นล้านบาท โดยที่ผ่านมามาตรการต่างๆของรัฐบาลได้มีการใช้วงเงินไปแล้ว 2.3 หมื่นล้านบาท
แต่ในส่วนของการปรับราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) นั้น จำเป็นที่จะต้องเดินหน้าปรับเพิ่มขึ้นหลังสิ้นสุดตรึงราคา 31 มี.ค.นี้ เพื่อสะท้อนราคาที่เป็นจริงมากขึ้น โดยราคาที่เพิ่มขึ้นนั้นจากเดิม ราคา 318 บาทต่อถังขนาด 15 กก. จะปรับขึ้น 15 บาทเป็น 333 บาทต่อถัง
สำหรับสถานการณ์ราคาพลังงานโลกเวลานี้จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซลพุ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี รวมถึงราคาน้ำมันดิบดูไบ ราคาก๊าซธรรมชาติ โดยประเทศไทยมีแผนในการจัดหาพลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 2 เดือนและมีการกระจายความเสี่ยงด้วยการปรับการนำเข้าน้ำมันจากแหล่งต่างๆมากขึ้น มั่นใจได้ว่าจะมีน้ำมันเพียงพอกับการใช้งานแน่นอนอย่างไรก็ตาม รัฐบาลอยู่ระหว่างหามาตรการในการช่วยเหลือดูแลกลุ่มเปราะบางทั้งในเรื่องของค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม
ส่วนกรณีของผู้ใช้เบนซินอยู่ระหว่างพิจารณาในรายละเอียดต่างๆ ในระหว่างนี้กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อยู่ระหว่างการหารือเพื่ออกมาตรการเสริมหากราคาพลังงานยังคงปรับตัวสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม คนไทยต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน การลดใช้น้ำมัน ไฟฟ้าลง 10% ไม่ยาก โดยอยากให้ดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อลดภาระประเทศ สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้ดี