“อัครเดช”ชี้“ปตท.”มีกำไรจากน้ำมันมากเกินไป จ่อเรียก“รมว.พลังงาน”แจง

อนุกมธ.รัฐวิสาหกิจ สภาฯ ชี้ปตท.มีกำไรมากเกินไป บี้”นายกฯม-สุพัฒนพงศ์” ดูสัดส่วนบอร์ดปตท.มีเอกชนมากกว่ารัฐวิสาหกิจ ทำปชช.เสียประโยชน์ แฉรายได้กว่า 2 ล้านล้านแต่ส่งรัฐแค่ 3.6 หมื่นล้าน จ่อเรียกรมว.พลังงานแจงนัดหน้า

วันที่ 14 มี.ค.65 .นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.) รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ในคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ที่ประชุมอนุฯ กมธ. ได้พิจารณาวิกฤตราคาน้ำมันแพงมาแล้ว 10 นัด เห็นว่าปตท.มีกำไรมากเกินไป ทางอนุกมธ. จึงตั้งข้อสังเกตใน 3 เรื่อง คือ 1.ได้มีการขอข้อมูลจาก ปตท. ในเรื่องต้นทุนและกำไรของ ปตท. ซึ่งราคาต้นทุนน้ำมัน ปตท.กลั่นเองภายในโรงกลั่นในประเทศไทย แต่อ้างอิงราคาน้ำมันของสิงคโปร์ ซึ่งเราได้ขอต้นทุนที่แท้จริง เพื่อศึกษาดูว่ามีกำไรเกินกว่าที่ควรจะได้รับหรือไม่ แต่ทางปตท.ปฏิเสธการส่งข้อมูลให้ จึงจะใช้กลไกรัฐสภาในการนำข้อมูลตรงนี้มาศึกษาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

นายอัครเดช กล่าวว่า 2.ในเรื่องกำไรของ ปตท. ทางอนุกมธ. ได้ดูว่า ปตท.มีการประกาศว่านำส่งรายได้ปี 2564 ให้กับรัฐบาลกว่า 8.2 หมื่นล้านบาท จากรายได้ทั้งหมดกว่า 2.25 ล้านล้านบาท ซึ่งรายได้ทั้ง 8.2 หมื่นล้านบาทที่ส่งให้กับรัฐนั้นมาจากเงินปันผลที่รัฐเข้าไปถือหุ้นจำนวน 2.9 หมื่นล้านบาท และปันผลให้กับกองทุนวายุภักษ์ที่เข้าไปถือหุ้นอีก 6,000 กว่าล้านบาท ที่เหลือเป็นการนำรายได้ที่เกิดจากภาษีที่นำส่ง ซึ่ง กมธ.มองว่าภาษีที่นำส่งให้กับทางรัฐ ไม่ควรนำมาคำนวณว่าเป็นรายได้ส่งรัฐเพราะธุรกิจก็ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วปตท.นำรายได้ส่งรัฐในรูปแบบเงินปันผลเพียงแค่ 3.6 หมื่นกว่าล้านบาทเท่านั้น ไม่ถึง 8.2 หมื่นล้านบาทตามที่ระบุ จึงเป็นการบิดเบือนความจริงให้กับสังคมว่านำส่งรายได้ให้กับรัฐจำนวนมาก จากรายได้ทั้งหมดกว่า 2.25 ล้านบาท จึงถือว่าน้อยมาก

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า 3.สาเหตุที่ ปตท.ส่งรายได้ให้รัฐน้อย เพราะจำนวนบอร์ด ปตท. จำนวน 15 คนนั้น มาจากภาครัฐแค่ 33 เปอร์เซ็นต์ แต่อีก 60 เปอร์เซ็นต์ มาจากเอกชน ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ภาครัฐถือหุ้นถึง 62 เปอร์เซ็นต์ การที่บอร์ดมาจากภาคเอกชนมากกว่าอนุกมธ.ตั้งข้อสังเกตว่าการออกนโยบายต่างๆ ของปตท. เป็นการรักษาผลประโยชน์ให้กับนายทุนมากกว่ารักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนหรือไม่ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ก็ยอมรับว่าจุดนี้เป็นช่องว่างที่ทำให้ ปตท. ถูกควบคุมจากภาคเอกชนหรือภาคธุรกิจมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ไม่สอดคล้องต่อสัดส่วนจำนวนหุ้นที่รัฐถือใน ปตท. อนุกมธ. จึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงมาดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วน และจะเชิญรมว.พลังงาน มาหารือว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรในการประชุมครั้งหน้า เพราะวันนี้ ปตท.ถือเป็นจำเลยสังคมและทางรัฐบาลต้องลงมาดำเนินการแก้ปัญหา