บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงาน และพลังงานทดแทน โดยมีการขยายการลงทุนหลายประเทศในเอเชีย และยังได้มองหาโอกาสขยายการลงทุนไปยังประเทศยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมแล้วจะมีจำนวนประเทศที่ บี.กริม เข้าไปลงทุน 11 ประเทศทั่วโลก อาทิเช่น สปป.ลาว เวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา เกาหลีใต้ โปแลนด์ เป็นต้น
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGRIM กล่าวว่า สำหรับหารลงทุนในยุโรปตะวันออกนั้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นประเทศโครเอเชีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เยอรมัน และกรีซ เนื่องจากประเทศในยุโรปนั้นหันมาให้ความสำคัญสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน และยังเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพมากในการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายราย
โดยในประเทศกรีซนั้น BGRIM มีสัญญา 1 ปีในการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน ซึ่งก็ต้องเข้าไปศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมในการลงทุน และต้องมีลูกค้าอุตสาหกรรมที่จะรับซื้อไฟฟ้า ซึ่งจะได้ราคาที่ดีกว่าขายไฟฟ้าให้กับรัฐ โดยตั้งเป้าลงทุนพลังงานลม 200 เมกะวัตต์ และเป็นการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ (กรีนฟิลด์) เพราะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการเข้าไปซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าอยู่แล้ว สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนนั้น BGRIM ตั้งเป้าได้ผลตอบแทนในระดับ 12%
อย่างไรก็ตามก่อนหน้าในยุโรปนั้น BGRIM ได้เข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศโปแลนด์ โดยเข้าซื้อหุ้นจำนวน 90 หุ้น หรือคิดเป็น 90% ใน Visa Max Solar Sp.z. (บริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศโปแลนด์ ถือหุ้นทั้งหมด 100% โดย visaVento Holding AG) คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 45,000 ซวอตือโปแลนด์ (PLN) หรือประมาณ 383,000 บาท เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ZEL1 กำลังการผลิต 14.1 เมกะวัตต์ในประเทศโปแลนด์
“ผมไม่กลัวการลงทุนในยุโรป เพราะผมเป็นคนยุโรป รู้จักเป็นอย่างดี ก่อนหน้านั้นก็ปิดดีลโครงการพลังงานลมที่โปรแลนด์ แล้วก็อยู่ระหว่างศึกษาลงทุนในประเทศกรีซ โครเอเชีย บอสเนียฯ และเยอรมัน ที่กรีซเราตั้งเป้า 200 เมกะวัตต์ และจะเน้นขายให้อุตสาหกรรม เพราะได้ค่าไฟฟ้าดีกว่าขายให้รัฐ” ดร. ฮาราลด์ กล่าว
ทั้งนี้ในปี 2565 BGRIM คาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เข้ามามากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ หลังจากที่ BGRIM, เอนเนอร์ยี่ แคปปิตอล เวียดนาม (ECV) บริษัทโฮลดิ้งและพัฒนาธุรกิจจากสหรัฐอเมริกา ซีเมนส์ เอนเนอร์ยี่ และ Maius ได้ร่วมกันดำเนินโครงการ LNG-to-Power ของ ECV ใน มุย เค กา (MKG) ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญนอกเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ด้วย ซึ่งการพัฒนา LNG-to-Power ในเวียดนามนั้นต้องรอความชัดเจนของแผนแม่บทการพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าฉบับที่ 8 ของเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
อนึ่งโครงการ MKG จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าถึง 3,600 เมกะวัตต์ และใช้ก๊าซ LNG 3 ล้านตันต่อปี (MTPA) โดยโครงการจะนำสถานีเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซธรรมชาติแบบลอยน้ำ (FSRU) มาใช้ประโยชน์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการลำเลียง LNG และจะเชื่อมต่อกับท่อส่งใต้ทะเลไปยังคอมเพล็กซ์ไฟฟ้าบนฝั่ง โดยเฟสแรก 1,800 เมกะวัตต์ มีแผนที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2568
ทั้งนี้ปัจจุบัน บี.กริม มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วรวม 48 โครงการ กำลังการผลิตรวม 3,058 เมกะวัตต์ หากในปี 2565 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้ามาเพิ่ม 1,000 เมกะวัตต์ ก็จะส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเป็น 4,058 เมกะวัตต์ มุ่งสู่เป้าหมาย 7,200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 และ 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573