“สตาร์ปิโตรเลียมฯ” ฟันกำไรปี 64 กว่า 4,746 ล้านบาท จากค่าการกลั่นตลาดที่เพิ่มขึ้น-สต๊อกน้ำมัน พร้อมจ่ายปันผล 0.1785 บาทต่อหุ้น
นายโรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัทฯ เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4,746 ล้านบาท) โดยมีค่าการกลั่นตลาดเท่ากับ 3.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสูงขึ้นจากปี 2563 โดยเป็นผลมาจากส่วนต่างของราคาน้ำมันดิบและราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่กำลังฟื้นตัว โดย SPRC ยังคงมุ่งสร้างกำไรอย่างต่อเนื่องผ่านการปรับสัดส่วนการเลือกใช้น้ำมันดิบและผลิตผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมต่อความต้องการของตลาดในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น
ส่วนผลการดำเนินงานดีขึ้นโดยมีปัจจัยหลักมาจากค่าการกลั่นตลาดที่เพิ่มขึ้น กำไรจากสต๊อกน้ำมัน และการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตลอดปีที่ผ่าน สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 SPRC ยังคงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญในการทำงานโดยปราศจาก การบาดเจ็บและการติดเชื้อ (injury and infection free)
การรักษาความเชื่อถือได้ของโรงกลั่นน้ำมัน เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง แสวงหาโอกาสและโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดและลดต้นทุน รวมถึงศึกษาโอกาสในการลงทุนในอนาคต เพื่อสร้างความมูลค่าสูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.1785 บาทต่อหุ้น การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 60 ของกำไรเบ็ดเสร็จสุทธิของบริษัทฯ ประจำปี 2564 หลังหักขาดทุนสะสม และการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ
โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) คือ วันที่ 8 มีนาคม 2565 และจะจ่ายในวันที่ 6 พฤษภาคม 2565
สำหรับการปฏิบัติการเก็บกู้ท่อน้ำมันบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ว่า ได้ดำเนินการนำท่อน้ำมันใต้ทะเลขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา โดยปฏิบัติการในขั้นตอนนี้ ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเก็บกู้ท่อน้ำมันใต้ทะเล
ซึ่งเราสามารถยืนยันได้ว่าขณะนี้ไม่มีน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณ SPM แล้วโดยการทำงานในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี เพราะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีและการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม โดยบริษัทได้รับรู้ค่าใช้จ่ายและประมาณการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลที่ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล เป็นจำนวนเงินประมาณ 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในงวดการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 โดยปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการดำเนินการกับบริษัทประกันภัยในเรื่องเงินประกันซึ่งจะถูกรับรู้เมื่อได้รับเงินดังกล่าว
นอกจากนั้นบริษัทฯ ได้มีการวางแผนการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้แก่ชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวระยอง พร้อมขอบคุณพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดการดำเนินงาน